ชวนเปลี่ยนพฤติกรรมลดปริมาณขยะ ลดมลภาวะให้สิ่งแวดล้อม
ขยะล้นโลก!!
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีต่อกี่ปี “ขยะล้นโลก” มันก็ยังคงเป็นอีก 1 ในปัญหาใหญ่ระดับมวลมนุษยชาติที่ไม่มีวันแก้ไขได้สักที นานเข้า ๆ ก็ยิ่งส่งผลกระทบและเกิดปัญหาใกล้ตัวเข้ามาทุกวัน ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็อาจจะเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ หรือไม่ใช่ปัญหาเลยก็พูดได้ เพราะทุกวันนี้หลายๆคนก็อยู่บนโลกนี้ได้ โดยที่มองว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาอะไร… ผมว่าพวกนี้แหละ คือที่มาของปัญหา

เพราะทุกวันนี้หลายๆคนก็อยู่บนโลกนี้ได้ โดยที่มองว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาอะไร… ผมว่าพวกนี้แหละ คือที่มาของปัญหา
เอาเข้าจริงๆไอเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรครับ ตอนที่ผมนั่งเขียนอยู่นี้ก็พยายามนึกย้อนกลับไปช่วยวัยเด็กที่พอจะจำความได้ ก็จะมีอยู่หลายๆระลอก ที่เราตื่นตระหนกกันเรื่องโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำจะท่วมโลก สาร CFC สภาวะเรือนกระจก โลกมีการเปลี่ยนแปลง บลาๆๆๆ เราเองก็ไม่รู้ว่า “มันจริงไหม” ผ่านมาหลายทศวรรษ “เราก็ยังคงดำรงชีวิตอยู่กันได้นิ” ไม่เห็นจะเดือนร้อนอะไร

ต้องตื่นตัวกันแล้ว
ลองสังเกตุตัวเองเองไหมครับว่าพวกเราสร้างปริมาณขยะให้เกิดขึ้นมาบนโลกเป็นปริมาณมากขนาดไหนในแต่ละวัน… ที่เห็นเป็นข่าวแล้วทำให้เราตื่นตัวกันมากที่สุดในปีที่แล้ว ก็คือเรื่องถุงขยะพลาสติกที่ พบในกระเพาะวาฬเป็นจำนวนมากถึง 8 กก. ที่ จ.ชุมพร… ตั้งแต่เด็กจนอายุสามสิบกว่าแล้ว ผมก็ยังเห็นเราพูดถึงเรื่องขยะและการรณรงค์กันเป็นระรอกๆ เกิดเรื่องใหญ่ๆทีเราก็รณรงค์กันเป็นพิธีสักที สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในระยะยาว….
เกริ่นมาตั้งนานเข้าเรื่องของบล็อกนี้ครับ… เราลองมาดูกันว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่จะช่วย “ลดปริมาณขยะ” ให้กับโลกใบนี้ได้บ้าง ซึ่งจริงๆก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่เราสามารถทำได้กันครับ ขอแค่ร่วมมือกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

1. ไม่รับถุงพลาสติก
ผมเห็นว่าช่วงนี้ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง รณรงค์เรื่องการไม่รับถุงพลาสติกครั้งนี้เยอะมาก บางที่ก็ได้ Point เพิ่มพิเศษ บางที่ก็ให้ส่วนลดเพิ่ม ก็ไม่แน่ใจว่าจุดเริ่มต้นมันเริ่มมาจากไหน (หรือว่ารัฐบาลลุงตู่เค้าบังคับ) หรือก็อาจจะเพราะเรื่องเทรนการตลาด ที่ทำตามๆกัน หรือไม่ภาคเอกชนก็อยากจะมีส่วนช่วยจริงๆ
ผมมองว่าอันนี้ดีย์ เห็นภาพชัดเจน ทำได้ง่าย เพราะทุกครั้งเวลาซื้อของ ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆก็จะจับยัดของใส่ถุงพลาสติกให้เราโดยอัตโนมัติ หน้าที่ของเราคือ “ปฎิเสธ” การรับถุงพลาสติกครับ และหยิบถุงผ้าขึ้นมาใช้แทน… ส่วนตัวผมสะพายย่ามถุงผ้าอยู่แล้ว ถ้าซื้อของไม่เยอะมาก ก็จ่ายตังก์และหยิบใส่ถุงผ้าได้เลย มันรู้สึกฟินนนเวลาไม่ใส่ถุงจริงๆ

2.ใช้ถ่านที่สามารถชาร์จซ้ำได้
ยิ่งเดี๋ยวนี้ Digital Devices ที่ใช้ถ่านเกิดขึ้นมากมาย ผมลองสังเกตุตัวเองดูว่าตอนนี้ผมใช้อะไรที่ต้องใส่ถ่านที่ต้องเปลี่ยนถ่านบ้าง ตั้งแต่ เม้าส์ไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สาย พอยท์เตอร์ ไฟฉายพกพา รีโมททีวี รีโมทเครื่อง เสียง ฯลฯ ที่เปลี่ยนบ่อยสุด คือ เม้าส์ไร้สายนี่แหละ ที่ต้องเปลี่ยนทุกเดือน
ตอนแรงลังเลๆ เพราะมันค่อนข้างแพง ซื้อถ่านมาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอยู่สักพัก พอดีเจอโปรฯดี เลยซื้อถ่านแบบชาร์จได้พร้อมแท่นชาร์จซะเลย ซื้อทีหลายก้อน ทั้ง AA และ AAA ที่ใช้บ่อยที่สุด… อาจจะลงทุนช่วงแรกสูงหน่อยจากราคาอุปกรณ์ที่มันไม่ถูก แต่ในระยะยาวแล้วคุ้มค่าแน่นอน รวมถึงช่วยไม่ให้เกิดขยะอันตรายอีกด้วย ตอนนี้ผมแทบไม่ต้องทิ้ง “ถ่านหมดไฟ” ลงถังขยะอีกเลย มีแต่ “ถ่านไฟเก่า” ที่กรุ่นอยู่ตลอดเวลา

3.งดใช้หลอดพลาสติก ใช้แก้วส่วนตัว
ผมว่าอันนี้ตัวดีเลย ผมคนนึงที่กินกาแฟทุกวัน เกือบทุกวันเข้าร้านคาเฟ่ที่ใช้แก้วพลาสติก ใช้หลอดดูดพลาสติก แล้วยังต้องใส่ถุงหิ้วอีก บางร้านยังต้องมี ฝาปิดพลาสติก + หูหิ้วพลาสติกอีกต่างหาก โอ้โอ ซื้อกาแฟกินแก้วนึงสร้างขยะได้ตั้ง 4-5 ชิ้นแหนะ สุดท้ายก็ต้องทิ้งเป็นขยะที่ย่อยสลายยาก…
หันมาใช้แก้วส่วนตัวเถอะครับ ผมเข้าใจว่าเพื่อนๆขี้เกียจล้างกัน แต่เราต้องลืมเรื่องความสะดวกสบาย แล้วเพิ่มความรับผิดชอบเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้แก้วส่วนตัวหรือ ทัมเบลอร์ ช่วยลดปริมาณขยะได้มหาศาลครับ ลองหาทัมเบลอร์สวยๆ ไซส์ที่ตัวเองถนัด สีหรือลายที่ชอบ ฯลฯ แล้วเพื่อนๆก็จะอยากจะพกมันไปใช้ในทุกๆวันครับ

4.ใช้ปิ่นโตหรือกล่องเก็บอาหาร
ถ้าคนที่ต้องซื้ออาหารทุกวัน ไอเท็มส์นี้ควรจะมีนะครับ เพราะมันจะช่วยลดกล่องโฟม ถุงพลาสติก และยางรัดของได้เยอะมาก ง่ายๆก็แค่พกกล่องเก็บอาหารใส่ถุงผ้าไว้ครับ ตอนจะใช้ก็เอาออกมา “ยื่นให้แม่ค้า” ใช้เสร็จแล้วก็ล้างให้สะอาด สะดวกสบายไม่หกเลอะเทะ แถมยังช่วยเราฝึกเรื่องความรับผิดชอบได้อีกด้วย
ตอนนี้ผมเริ่มฝึกที่จะพกกล่องเก็บอาหารในชีวิตประจำวันแล้วครับ อาจจะทำไม่ได้ทุกๆวัน แต่ก็จะพยายามทำให้ได้ ผมว่าแม่ค้าก็น่าจะชอบนะ เพราะช่วยเค้าลดต้นทุนเรื่องค่าถุงพลาสติกได้ ถ้าทุกๆคนทำเหมือนกันหมดเป็นกิจวัตร อีกหน่อยแม่ค้าก็ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติกใส่กับข้าวแล้วครับ

5.เลือกใช้ของที่ย่อยสลายได้
คือถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็อาจจะต้องเลือกใช้ ถุงกระดาษ หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่ายครับ ถามว่าเราเลือกได้อย่างไร.. ในมุมผม เราสามารถสนับสนุนร้านค้า หรือร้านอาหารที่เลือกใช้ของพวกนี้ได้ครับ อย่างน้อยเราก็มีส่วนร่วมในการสนับสนุกเค้าเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่เค้าเลือกมาใช้ ทั้งๆที่ของพวกนี้ราคาสูงกว่ากล่องโฟม หรือถุงพลาสติก อีกนะครับ
ส่วนตัวเวลาได้ถุงกระดาษ หรือถุงพลาสติก มาผมจะเก็บๆไว้ครับ ที่ช่วยได้อีกทางนึงคือ นำถุงพวกนี้กลับมาใช้อีกครั้งโดยที่ยังไม่ต้องทิ้งไป คือ ใช้ประโยชน์จากมันอีกนิดนึง ก่อนที่มันจะกลายเป็นขยะครับ

6.ขยะดิจิทัล !
วินาทีนี้ …ขยะดิจิทัล ! อาจจะสร้างปัญหาให้กับคุณได้เช่นกันนะครับ เราลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นและไม่ได้ใช้เพื่อลดขยะดิจิทัลกันเลย ลองคิดดูว่า ถ้าไฟล์มันเยอะเครื่องเราก็จะงานหนัก เครื่องช้าเครื่องอืด กินไฟ พัง… ซื้อใหม่ ขยะทั้งนั้นเลย
นอกจากเรื่องการประหยัดพลังงานแล้ว ยังเป็นการฝึกเรื่องวินัยและฝึกนิสัยของเราให้เป็นคนที่มีการจัดระเบียบอีกด้วยครับ ว่าแต่ “ขยะสังคม” มีใครช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ ว่าจะกำจัดยังไงได้บ้าง (คิดไปคิดมา… ช่างมันเถอะคนพวกนี้)

และ…. ดึงกระดาษเช็ดมือ “แผ่นเดียว” ก็พอครับ

ในบางประเทศก็มีการจัดการได้ดี โดยเริ่มตั้งแต่การแยกขยะ การจัดเก็บขยะ รีไซเคิลขยะ ไปจนถึงการปลูกฝังจิตสำนึกของเยาวชน (ซึ่งคนเค้าก็อาจจะดีอยู่แล้ว) ส่วนบางประเทศที่คนส่วนใหญ่ สบายจนเคยตัว… ก็ยากหน่อยที่จะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะครับ ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ และทำต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตร จนเป็นนิสัย ก็ช่วยได้เหมือนกัน
วันนี้คุณทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้วหรือยัง… หรือยังทำเพื่อตัวเองอยู่ อ๊ะ อ๊ะ ตาวิเศษเห็นนะ
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
