ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยสายการบิน Thai VietJet Air เป็นครั้งแรกครับ เลยอยากจะขอรีวิวความรู้สึกนิดๆหน่อยๆ… ความคิดแว๊บแรกคือ อยากหาสายการบิน Low Cost ที่ขึ้นที่สุวรรณภูมิ เพราะผมเดินทางสะดวกด้วย Airport Link จากสถานีรามคำแหง เจอช่วงราคาน่าลองพอดี เลยได้พึ่งบินกับเค้านี่แหละ

ข้อดีที่ผมยกให้คือ “ขึ้นที่สุวรรณภูมิครับ” (ใกล้บ้านนั่นเอง) ไฟลท์ที่ผมเลือกไว้คือ 9.50 เท่ากับว่าผมต้องไปถึงสนามบินประมาณ 8.30 ซึ่งต้องขึ้นแอร์พอทลิงก์ประมาณ 8.00 ชิวๆสบายๆไม่ต้องรีบ *เดี๋ยวนี้แอร์พอทลิงก์เปิดตั้งแต่ตี 5.30 แล้วด้วย (แต่ไฟลท์แรก 6.10 ถ้ามาด้วยแอร์พอทลิงก์ ไม่ทันแน่)
สายการบินนี้เช็คอินผ่านเว็บ “ไม่ได้” ต้องมาทำการเช็คอินที่เค้าเตอร์เท่านั้นครับ ซึ่งผมไม่มีสัมภาระเช็คอิน มีเพียงกระเป๋าเป้ 1 ใบ ซึ่งก็ต้องชั่งน้ำหนักและต้องติด Baggage Tag ด้วยฮะ ไม่เหมือน Low cost ที่ดอนเมือง หิ้วขึ้นชิวๆ *ให้ได้แค่ 7 กก. ถ้าเกินต้องจ่ายเพิ่มด้วยนาาาา
- ขึ้นที่สนามบินสุวรรณ์ภูมิ
- ขึ้นที่สนามบินสุวรร์ภูมิ

ผมตกใจที่นั่งของผมเล็กน้อย คิดในใจว่าทำไมที่นั่งกว้างจัง.. นึกว่าอัพเกรดที่นั่งแบบ Premium ให้ แต่ที่ไหนได้ มันที่นั่งในแถวประตูฉุกเฉินนี่นา ตรงนี้ทุกอย่างเลยดูซีเรียสไปหมดเลย สจ๊วดหน้ามุ่ยๆ ที่ดูแลแถวนี้ทำผมไม่กล้ากระดิกนิ้วทำอะไร (หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม แถมยังเข้มงวดมากมาย นางห้ามทุกอย่างเหมือนคุณครู
ส่วนขากลับได้ที่นั่งปกติซึ่งได้นั่งริมทางเดินเหมือนเดิม แคบลงนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้แคบมากกว่าสายการบิน Low Cost อื่นๆโดยทั่วไป ดีที่ผมตัวเล็ก นั่งสบายแม้ที่นั่งคับแคบ!

เอาจริงๆผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องการบริการบนเครื่องของ Low Cost อยู่แล้ว คือไม่ได้หวังมาก ขอแค่ให้ผมถึงที่หมายโดยปลอดภัยก็พอ แต่…ตลอดเวลาบิน 1 ชั่วโมง ก็ไม่ได้ประทับใจทั้งขาไปและขากลับ ส่วนตัวมองว่าการบริการออกแนว agressive ไปสักหน่อย *ย้ำว่าไม่ได้ซีเรียส ในใจยังแอบขำด้วยซ้ำว่า… ต้องหน้ามุ่ยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยย (นึกแล้วยังขำเลยเนี่ยคับ)

แต่ผมก็เข้าใจนะ เพราะขาไปที่ผมนั่งคือแถวประตูฉุกเฉิน ฝรั่งที่นั่งแถวเดียวกัน มองตากันเลิกลั๊ก เพราะนางโดนห้ามนุ่นห้ามนี้แบบออกคำสั่ง ไม่ใช่แนวอธิบาย ตั้งแต่นางเริ่มสาธิตการใช้อุปกรณ์ต่างๆ (บอกฝรั่งให้เก็บมือถือและ นาง “ริบ” หมอนรองคอเก็บบนชั้นเหนือศรีษะทันทีจ๊า แล้วให้ฟังเค้าอธิบายนุ่นนี่นั่นโน่น….) แต่ผมก็มองว่าการที่สจ๊วดเค้าซีเรียสเรื่องกฎ แล้วกล้าบอกผู้โดยสารตรงๆ ก็เป็นข้อดีในเรื่องความปลอดภัย แต่บอกแบบดีๆ และยิ้มนิดยิ้มหน่อยอย่างจริงใจดีกว่าน๊าาา…. Please ผมกลัว

เท่าที่มองรอบๆห้องโดยสาร เบาะนั่ง และพื้นพรมที่ถลอกๆ ไม่ได้เป็นเครื่องใหม่มากครับ ดูจากสภาพแล้วก็คงผ่านการใช้งานมานานแล้ว แต่ที่แปลกใจคือ ผู้โดยสารเต็มเครื่องเลยเต็มทุกที่นั่ง ทีแรกคิดว่า คนน่าจะน้อยเพราะไม่บินกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะเยอะครับ
ส่วนเรื่องการบิน ขาไปปกติดีครับ อากาศแจ่มใส ขากลับค่ำๆดันเจอฝน เครื่องบิน Turbulence อยู่ราวๆ 10 นาที กัปตันประกาศรัดเข็มขัดเพราะผ่านสภาพอากาศแปรปรวน คู่รักชาวจีนข้างๆจับมือกันแน่น ผมล่ะ!! ฟังเพลงหลับตาอย่างใจเต้นตุบตับๆ

บนเครื่องก็มีอาหารให้สั่งด้วย มีเมนูไทยๆ เช่น ผัดไทยไก่, ข้าวมัสมั่นไก่, เพนเนพาสต้าเห็ด ฯลฯ กับราคา 150 บาทไทย แต่ไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไงนะคับ ไม่ได้ลองทาน คราวหน้าต้องลองซะหน่อยย รู้สึกว่าสั่งมาก่อนจะได้ลดด้วยแหะ
- อาหารบนสายการบิน
- อาหารบนสายการบิน
อีก 1 ข้อที่ผมมองข้ามเรื่องหน้ามุ่ยคิ้วขมวดของ Cabin Crew ไปก็คือเรื่องของราคาตั๋วที่ถูกเวอร์ ตั๋วขึ้นราคาที่หน้าเว็บ 630 บาท สิ้นสุดการจ่ายรวมทุกอย่างแล้ว ก็ 931 บาท ต่อเที่ยว! ผมโชคดีที่ยังมีตั๋วโปรฯ แบบ Lowest price โชว์อยู่ ขนาดจองล่วงหน้า 2 วันเองคับ….ไม่งั้นก็จะพันกว่าบาทก่อนรวมทุกอย่าง

และเรื่องของการจองผ่านออนไลน์ของเว็บไซต์ https://www.vietjetair.com ในหน้าเลือกบริการเสริมสำหรับกระเป๋าเดินทางตั้งค่า Default เป็น “ไม่ ขอบคุณ” ซึ่งเท่ากับว่าถ้าเราไม่มึนๆเราก็จะไม่ต้องเสียค่าโหลดกระเป๋าเพิ่ม โดยที่เราไม่รู้ตัว…
สรุปรีวิว “Thai Vietjet Air” BKK-CNK-BKK
~ ถูกดีเวอร์ ซื้อตั๋วออนไลน์ไม่หมกเม็ด
~ ขึ้นลงสุวรรณภูมิ ดีกว่า ใกล้บ้าน
~ online Check-in ไม่ได้ ต้องไปเค้าเตอร์
~ ทุกอย่างดูซีเรียสไปหมด ขนาดมีตาชั่งขอชั่งกระเป๋าหลัง Gate เลย ขอชั่งจริงๆด๊วย / บนเครื่องก็ซีเรียสเกิน 10
~ สจีขาไปนางไม่ค่อยยิ้มแย้ม ดุอีกต่างหาก ยังวัยรุ่นอยู่เลย แต่น่ารักเลยให้อภัย แถมใช้ปากกา TG
~ แอร์ขากลับทั้งลำ นางทำอะไรว่องไวฉุบฉับๆ ดุเหมือนสจี
~ กัปตันบินอย่างกะอยู่ในสนามแข่ง ผ่านพายุ 10 นาทีหัวใจตกที่ตาตุ่ม……
จบฟิลลิ่งของผมแต่เพียงเท่านี้ครับ
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
