ที่เที่ยวภูเก็ตที่ผมแนะนำในรีวิวนี้ ผมใช้เวลาอยู่ที่ภูเก็ต 2 คืน 3 วันครับ ซึ่งผมเช่ารถจากสนามบินภูเก็ตไว้ด้วย เพื่อจะได้ขับรถตะลอนๆไปยังที่เที่ยวของภูเก็ตได้สะดวกขึ้น – เพราะแต่ละที่นั้นไม่ได้อยู่ใกล้กันและต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางพอสมควร – และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาหาดป่าตองจริงๆ และก็ได้พักที่นี่ด้วยครับ ผมพักที่ โรงแรมสวัสดีป่าตองรีสอร์ทแอนด์สปา ผมรีวิวไว้แล้วแหละ ตามไปดูได้เล้ย..

วันที่ 1 สนามบินภูเก็ต – หาดป่าตอง
จากสนามบินภูเก็ตจะใช้เวลาขับรถมาที่ป่าตองประมาณ 1.20 ชม. ครับ แต่ผมบินมาถึงก่อนเที่ยง คิดว่ายังไม่น่าจะ check-in ที่โรงแรมได้ เลยแวะเข้าไปในเมืองก่อนแป๊บนึงเพื่อหาติ่มซำอร่อยๆกิน ซึ่งร้านดังที่ Pantip บอกไว้ว่ายังไงก็ต้องมาแหละ ยังไม่เคยมาก็ต้องมาลองซะหน่อยที่ร้านติ่มซำร้านบุญรัตน์


กินอื่มแล้วก็พอได้เวลาเช้าเช็คอินที่โรงแรมในป่าตองแล้วครับ… จากตัวเมืองภูเก็ตขับมาหาดป่าตองก็ไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ ใช้เวลาเกือบ 45 นาทีเลยทีเดียว เพราะรถค่อนข้างติดและในตัวเมืองเป็น one-way ผมหลงทางจนขับสวนทางมาแล้ว… งืออ

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปสำรวจป่าตองในช่วงบ่ายๆ กันแล้วครับ (สอยเสื้อฮาวายสวยๆมาจากจางซีลอนในราคา 200 บาท) ช่วงบ่ายแก่ๆ ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศดีมาก “ป่าตอง” ในความรู้สึกผมมันไม่ได้เป็นป่าเหมือนชื่อเลย มันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เจริญและคับคั่งพอๆกับพัทยา นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินตลอดสองข้างทางและชาดหาดนึกว่าอยู่ต่างประเทศเลยเชียว


วันที่ 2 (ช่วงเช้า) ป่าตอง – หาดไม้ขาว
หลังจากที่อิ่มพุงแตกกับมือเช้าที่โรงแรมแล้ว ผมก็ขับรถกลับออกมาทางสนามบินครับ เพราะชายหาดที่ผมต้องไปให้ได้คือ “หาดไม้ขาว” เป็นชายหาดที่เงียบสงบและยาวที่สุดของภูเก็ต ชายหาดนี้นักท่องเที่ยวเค้านิยมมาดูเครื่องบินตอน Landing ครับ จากป่าตองจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง (รวมหลงทางแล้ว)

ผมขับรถมาจอดไว้ที่จุดบริการจอดรถ (จอดฟรี) ตรงนี้จะมีชุมชนร้านค้าของชาวบ้านชื่อว่า “หลาดชมเล@บ้านไม้ขาว” ปักหมุดมานี่ได้เลยเพราะจอดได้ที่เดียว มีเครื่องดื่ม ของกิน ส้มตำ เสื้อมัดย้อม ฯลฯ แต่ตรงนี้จะไกลจากจุดเครื่องบิน Landing ประมาณ 2 กิโลเมตรครับ

จะเดินชิวๆไปก็ได้ถ้าอยากรับลมร้อนๆ หรือจะนั่งมอไซด์พ่วงข้างไปก็ได้ (คนละ 20) แต่ผมเดินเรียบชายทะเลชิวๆร้อนๆไปเรื่อยๆครับ (บอกเลยว่า ไหม้)
สรุปว่าไม่ได้รูปกับเครื่องบินกับเค้านะ เพราะถ่ายยากมากเลย ก็เลยไม่ได้มุมสวยๆถูกใจสักที แต่ตรงนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะไม่มีต้นไม้ใหญ่ ทรายก็ร้อนดั่งซาฮาร่า ถ้าอยู่ตรงนี้นานเห็นทีจะได้ผิวสีช็อกโกแลตแน่ๆ ขากลับนี่นั่งมอไซด์พ่วงข้างกลับแป๊บเดียวถึง… รู้งี้นั่งมาตั้งแต่แรกละ

อ๋อ.. ถ้าจะลงเล่นทะเลที่หาดไม้ขาว ต้องระวังดีๆครับ แม่ค้าตรงตลาดบอกว่าทะเลบริเวณนี้จะมีช่วงที่น้ำค่อนข้างลึกและเกิดน้ำวนบ่อยๆ อันตรายมาก ห้ามเล่นตรงนี้… ถ้าจะเล่นต้องเล่นน้ำตรงบริเวณที่เค้ากั้นโซนให้เล่นด้านหลังรีสอร์ทที่มีการ์ดคอยดูแลครับ


วันที่ 2 (ช่วงบ่าย) ป่าตอง – แหลมพรหมเทพ – ย่านเมืองเก่า
เสร็จจากหาดไม้ขาวก็กลับมานอนสลบที่โรงแรมอยู่พักนึงครับ หายเหนื่อยแล้วก็ขับรถผ่านเข้าตัวเมืองอีกรอบเพื่อไปยัง “แหลมพรหมเทพ” โอ้โห.. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเลยนะ เผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อยเพราะว่ารถค่อนข้างติดและไฟแดงอย่างเยอะ ต้องขับขึ้นเขาอีกต่างหาก !

ผมไม่ได้มาแหลมพรหมเทพเป็น 10 ปีเห็นจะได้ ครั้งนี้ก็ยังคงสวยและโรแมนติกเหมือนทุกครั้ง.. แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ครั้งนี้ผมยอมเดินลงไปที่สุดปลายแหลมพรหมเทพ คือ มันดีมากกกกก ใครยังไม่เคยเดินลงไป ผมแนะนำ ห้ามพลาดครับเด็ดขาด !

จะใช้เวลาเดินลงประมาณ 30 นาทีในการไต่ลงไปที่ปลายแหลมพรหมเทพ เพราะเสียเวลาตรงแวะถ่ายรูปตลอดทางลงไปตรงปลายแหลม ! ดังนั้นให้เผื่อเวลามาถึงก่อน 5 โมงเย็นกำลังดีครับ ถ้ามารอเร็วหน่อยก็จะมีที่จอดรถสบายๆไม่ต้องเดินไกล

ระหว่างทางจะมีจุดแวะให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆตลอดสองข้างทางครับ มองขึ้นมาด้านบนเราก็จะได้มุมมองของแหลมพรหมเทพมุมใหม่ ที่เห็น “ต้นตาล” ได้สวยไม่แพ้ตอนมองลงมาเหมือนกันนะ

ตรงปลายแหลมจะเป็นโขดหินมีชื่อว่า “แหลมเจ้า” ที่ตรงนี้แหละที่เราสามารถนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินจนลับขอบฟ้า เพราะเป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของภูเก็ตเค้าละ แต่ก็อย่านั่งดูเพลินจนค่ำมืดนะ เพราะว่าจะเดินขึ้นลำบาก บางจังหว่ะมันต้องปีนโขดหินด้วยหล่ะ

ดูพระอาทิตย์ตกดินจากแหลมพรหมเทพเสร็จ ก็ต้องมาเดินเล่น & ถ่ายรูป “ย่านเมืองเก่าในตัวเมืองภูเก็ต” ครับ เป็นย่านที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกที่นึงที่ผมบอกเลยว่า พลาดไม่ได้ ! แต่เชื่อไหม ผมมาที่นี่ครั้งแรกเหมือนกัน

ขาเข้าเมืองแยกไฟแดงเยอะและรถติด ผมใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีจากแหลมหรพมเทพครับ จอดรถได้ริมถนนถ้ามีที่ว่าง.. พอเดินเข้าโซนที่เป็นตึกเก่าชิโนโปรตุกีส ผมถึงกับร้องกรี๊ด… มันสวยและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นน่าถ่ายรูปมว๊ากกกก

กลางคืนก็จะประดับไฟสวยงามตามท้องเรื่อง แต่ว่าเราก็จะถ่ายรูปตอนกลางคืนกันยากหน่อย เพราะแสงน้อย ให้มือสมัครเล่นถ่ายรูปก็ได้แค่นี่อ่าาาา แถมช่วงที่ผมไปก็มีข่าวไวรัสอู่ฮั่นที่จีนด้วย… คนจีนหายหมด ร้านก็ปิดค่อนข้างเยอะ ตรงนี้เลยเงียบมากครับ

ตรงนี้แหละที่ผมได้ร้านตามสั่งข้างถนนสำหรับมือดินเนอร์สุดหรู… กับอาหารตามสั่งแนว Local Food ชื่อดังอย่าง ผัดหมี่ฮกเกี้ยน กับ เบียร์ภูเก็ต !! แค่นี้ก็ฟินแล้วคร้าบพี่น้อง… ขับรถกลับป่าตองอย่างสบายใจ หอบหิ้วความทรงจำและความสุขใส่กระเป๋าเต็มเลย


วันที่ 3 ป่าตอง – หาดกมลา – สนามบินภูเก็ต
วันที่ 3 หลังจากตุน breakfast ที่โรงแรมไว้เต็มท้องแล้วก็ได้เวลา Check-out ก่อนเที่ยงกันแล้วคร้าบบบ วันนี้ผมสามารถแวะระหว่างทางได้อีก 1 ที่ก่อนไปสนามบิน ผมก็เลยขอแวะ “หาดกมลา” เพราะยังไม่เคยมา ทั้งๆที่ชื่อนี้มันฝังอยู่ในหัวมาตั้งนานแล้วครับ… ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

หาดกมลาทำผมตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ เพราะผมไม่เจอนักท่องเที่ยวชาวไทยเลย ! เหมือนเราไม่ได้อยู่ในประเทศตัวเองเลยอ่ะ ฟิลล์เหมือนอยู่ต่างประเทศ เพราะทุกตารางเมตรเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมากทั้งชายหาดและสระว่ายน้ำในโรงแรม

ผมมีเวลาให้หาดกมลา 2 ชั่วโมง ก็เลยเช่าเตียงชายหาด 200 บาท กับสั่งอาหารเที่ยงซะที่นี่เลย… เล่นทะเล นอนชิวๆ ยาวๆไปแต่ไม่ขออาบแดดกะเค้า เพราะผิวสองสีอย่างผมถ้าไหม้นี่ดำไปเป็นเดือนเลย ดีนะที่มีสเปรย์กันแดดนีเวียติดมาด้วยครับ ! ตัวนี้สะดวกมาก แค่ฉีดๆรอแป๊บเดียวก็พร้อมออกแดดแล้วครับ :)


เห้อ เวลามาเที่ยวนี้รู้สึกเหมือนกันไหมครับว่าเวลามันผ่านไปไวมากก ไม่อยากกลับแต่ก็ต้องกลับมาทำงานเพื่อหาเงินมาเที่ยวกันอีก วัฎจักรของมนุษย์เงินเดือนแล้วชอบเที่ยวก็เป็นแบบนี้ละครับ…. เจอกันใหม่ทริปหน้า XOXO
TAKE.ON.TUBB & THE WEEKEND

กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
