รีวิวน้ำตกโกรกอีดก ลุยเดี่ยวพาเที่ยวน้ำตก.. ไปคนเดียวเที่ยวไม่ยาก

VLOG พาเที่ยวน้ำตกโกรกอีดก The Weekend

จะเที่ยวหน้าฝน.. ก็ต้องนึกถึงภูเขา ลำธาร น้ำตก มันก็ให้มีความเขียวๆ ชุ่มฉ่ำ สดชื่น The Weekend บล็อกรีวิวเที่ยวฉบับนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่น้ำตกโกรกอีดก จ.สระบุรีครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพ และยังเป็น จังหวัดบ้านเกิดผมด้วย ตามผมมาใกล้ๆได้เลยคร้าบบ…ไปคนเดียวง่ายๆสบายใจครับ

“น้ำตกโกรกอีดก.. ทีลอซูที่เขาใหญ่”

น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกสูงชันเสียดฟ้า ตอนผมไปถึงเหมือนน้ำตกลงมาจากสวรรค์ยังไงหยั่งงั้นเพราะด้านบนสุดมีแต่หมอกปลกคลุมที่สุดปลายต้นน้ำ ทำให้โกรกอีดกเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของสระบุรีเลยก็ว่าได้ ถ้าพูดถึงน้ำตกที่สระบุรี หลายๆคนอาจจะนึกถึง น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกมวกเหล็ก ฯลฯ ที่อยู่อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี แต่น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกที่อยู่ใน “อำเภอแก่งคอย” แต่เข้าไปอีกลึกติดจังหวัดนครนายกเลย

การเดินทางมายังน้ำตกโกรกอีดก

ผมเดินทางจากกรุงเทพฯ มาสระบุรีเพื่อแวะบ้านก่อนครับ (บ้านเกิดผมอยู่ที่สระบุรีพอดี แต่ก็ไม่เคยรู้ว่ามีน้ำตกแห่งนี้ด้วย) ผมขับรถมาตามถนนมิตรภาพเรื่อยๆ จนถึงทับกว่าง ที่อำเภอแก่งคอย กลับรถมาเข้าเส้นทางหลวงชนบท สบ.1003 มาตามทางป้าย “น้ำตกเจ็ดคต” แต่เส้นทางนี้จาก น้ำตกเจ็ดคตขับต่อไปถึงบ้านบึงไม้อีก 15 กม. เป็นทางลูกรังสลับลาดยางบ้าง ทางจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็จะได้แวะน้ำตกเจ็ดคต ที่ ขญ.18 แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรครับ

ผมแนะนำอีกเส้นทาง คือ ถนนเลข 3222 ที่ไป อ.บ้านนา จ.นครนายก กลับรถที่อำเภอแก่งคอยเลย ถนนจะดีกว่า เลนกว้างกว่า ขับสบายกว่า แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายที่เขียนว่าไป “วัดป่าสว่างบุญ” ซึ่งแถวๆนี้ก็จะอยู่ในเขตบ้านบึงไม้ ซึ่งก็ไม่ไกลจากน้ำตกแล้วครับ… ซึ่งเราก็จะได้แวะสะพานบึงไม้ จะเป็นที่พักริมทาง มีร้านค้าร้านอาหารเล็กๆริมลำธารด้วย

ซึ่งขากลับผมกลับเส้นทางนี้ครับ

ต้องไปถึงตั้งแต่เช้าๆ

ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าการที่จะไปโกรกอีดกเราต้องไปถึงเช้าๆ เพราะใช้เวลาเดินเท้าค่อนข้างนาน กว่าจะเดินขึ้น-เดินลง ก็หลายชั่วโมงแล้ว… แต่ผมดันไปถึงซะบ่ายโมง เพราะออกจากสระบุรีมาตอนเที่ยง และมัวแต่หลงทางจากน้ำตกเจ็ดคต..แถมทางก็ไม่ค่อยดีอีก ปรากฎว่าขึ้นไปยังน้ำตกไม่ได้ครับ

เลยต้องหาที่นอนที่บ้านบึงไม้ก่อน 1 คืน แล้วขึ้นไปยังน้ำตกในช่วงเช้าๆ

ทำให้ผมมีเวลาหาที่เที่ยวเล่นในช่วงบ่าย ซึ่งผมได้แวะไปที่วัดป่าสว่างบุญ 500 ยอด เป็นวัดที่มีพื้นที่ใหญ่โต และสิ่งที่โดดเด่นของที่วัดนี้ก็คือ “พระมหาเจดีย์ 500 ยอด” ก็เป็นลักษณะเจดีย์ปูนปั้นสีทอง ถ่ายรูปออกมาก็จะสวยงามตามที่เห็นเลยครับ

และก็ยังได้แวะ “สะพานบึงไม้” ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีซุ้มขายของกิน เครื่องดื่มเยอะแยะมากมาย คนก็จะลงเล่นน้ำกันบริเวณนี้ด้วยครับ

ผมเริ่มทำท่าจะตก… ผมก็กลับมานั่งพูดคุยกับชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเป็นชมรมท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์บ้านบึงไม้-น้ำตกโกรกอีดก ซึ่งทำให้ผมได้ที่พัก 1 คืนจากชาวบ้านใจดีที่อยู่ในชมรมท่องเที่ยวครับ

สบายใจ มีที่พักแล้ว.. พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินขึ้นน้ำตก แต่ด้วยความที่เวลาเหลือ เลยขับรถเล่นไป Survey จนถึงทางเดินขึ้นน้ำตกครับ สองข้างทางก็เป็น “ป่า” เขียวขจี ฟ้าครึ้มๆได้บรรยากาศเป็นใจมาก

จากบ้านบึงไม้ เราต้องขับรถไปประมาณ 8 กิโลเมตรครับ กลางคืนจะน่ากลัวมากเพราะสองข้างทางไม่มีไฟ เมื่อไปถึงจุดสิ้นสุดทาง ผมเห็นกลุ่มขี่จักรยานรวมกลุ่มกันขี่มาถึงจุดนี้ด้วย ซึ่งจากตรงนี้ เราต้องข้ามลำธารเล็กๆและเดินต่อขึ้นไปอีกประมาณ 4 กม.

ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเที่ยวโกรกอีดกคือช่วงเดือน ก.ค. – พ.ย. จะต้องเดินเข้าป่าประมาณ 4 กม. ลัดเลาะตามป่าเขาขึ้นไปจาก 176 เมตร จนถึงระดับ 640 เมตร ซึ่งจะผ่านน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น แต่ลงเล่นน้ำได้เพียง 4 ชั้น ระหว่างทางก็จะพบกับกล้วยไใ้ป่าและเห็ดนาๆชนิด โดยเฉพาะเห็ดแชมเปญ ที่เป็นพระเอกในเส้นทางสายนี้ครับ

จากลำธารตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเท้าขึ้นไปยังน้ำตกครับ ทางข้ามลึกระดับหัวเข่า สามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณนี้.. แต่ตอนนี้เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ผมขึ้นไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่ครับ

ตรงจุด Stop นี้ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านดูแลอยู่ แต่ก็มีที่จอดรถ ห้องน้ำ มีถังขยะ มีรถมอไซด์พ่วงข้างขายขนมจุกจิกด้วยครับ ถ้าใครหิวๆก็ซื้อตรงนี้ได้ แต่ผมไม่รู้ว่ามีตลอดหรือเปล่านะครับ เพราะมีอยู่แค่คันเดียวเอง เค้ามาขายขนมจีบซาลาเปา

ผมกลับมาที่พักของผมคืนนี้ ตรงหมุดที่เจ้าของบ้านปักไว้ให้ครับ ซึ่งก็ไม่ไกลจากจุดเดินขึ้นไปบนน้ำตกเท่าไหร่ เจ้าของบ้านเป็นสมาชิกชมรมท่องเที่ยวครับ ก็หาที่นอนเตรียมไว้ให้ผมเรียบร้อย เป็นห้องแยกส่วนตัว สบายๆ ผมแฮปปี้แล้ว

แถมด้านหลังบ้านที่ผมได้พักคืนนี้ยังเป็นลำธารไหลลงมาจากน้ำตกอีกด้วย ได้ยินเสียงสายน้ำตลอดเวลา คืนนี้ไม่รู้จะฟินยังไงแล้วครับ ขอตัวไปหาเครื่องดื่มเย็นๆชื่นใจ จิบให้สบายใจกับบรรยากาศซะหน่อย

เมื่อคืนผมนั่งกินเบียร์เป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้านจนถึงเลยครับ อากาศเย็นดีมากๆ ตื่นเช้ามาอากาศสดชื่นกว่าตอนกลางคืนอีก หมอกปลกคลุมยอดเขา น้ำค้างปลายหญ้า แสงแดดยามเช้าทำให้เป็นเช้าที่ผมพร้อมเดินขึ้นน้ำตกโกรกอีดกแล้วครับ

ระหว่างทางเดินก็เป็นถนนที่เราจะใช้เดินทางเพื่อขึ้นไปน้ำตก จริงๆถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศลุยๆ ก็ออกแต่ 6 โมงเช้า แล้วเดินทางจากตรงนี้ไปก็น่าตื่นเต้นดีครับ เพราะทางลาดยางมะตอย สะดวกมาก

หลังจากเตรียมพร้อมเรียบร้อย ทางชมรมฯ ใช้รถกระบะมารับผมระหว่างทางพร้อมนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอีก 3-4 คนครับ แต่ผมมาคนเดียวเลยขอเดินรั้งท้าย เพื่อที่จะได้ถ่ายวีดีโอไปได้ด้วย

เริ่มเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ทางก็จะเป็นป่ามากขึ้นและทางเริ่มแคบลงเรื่อยๆครับ แต่ก็พอจะเห็นทางเท้าอยู่บ้าง ซึ่งถ้าใครมาคนเดียว ไม่แนะนำเลย เพราะจุดตัดเส้นทางบางจุดมันไม่ชัดเจนครับ อาจจะหลงทางได้

“เห็ดแชมเปญ” ด้านล่างนี้เป็นดอกแรกที่ผมพบระหว่างทางเดินขึ้นไปน้ำตกครับ ดอกเล็กๆแต่ก็สวย น่ารัก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

การเดินทาง 4 กม. จากจุดเดินเท้า เราจะใช้การเดินลัดเลาะลำธารขึ้นไปเรื่อยๆครับ บางขุดต้องเดินข้ามลำธาร ซึ่งน้ำก็ไม่ลึกมาก ในบางช่วงของการเดินเราก็จะผ่านน้ำตกชั้นเล็กๆ สามารถแวะพักตรงจุดนี้ได้ครับ

ระหว่างทางจะพบกับน้ำตกหลักๆ 7 ชั้น ในชั้นที่ 5 ถึงชั้นที่ 7 จะเป็นทางเดินที่ค่อนข้างชันมาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินพอสมควร

ชั้นที่ 1 วังธารา มีลักษณะน้ำจากลำธารไหลตกกระทบโขดหินขนาดใหญ่ก่อนตกลงสู่แอ่งน้ำกว้างแล้วไหลเป็ฯลำธารต่อไป

ชั้นที่ 2 ผาสองหลั่น เป็นน้ำไหลตกผ่านหน้าผาลงสู่ธารน้ำห้วงสั้นๆ ก่อนไหลลงสู่ร่องหุบอีกครั้ง

ชั้นที่ 3 สันธารไหว ลักษณะลำธารไหลผ่านแก่งหินสลับไปมา และดูดั่งสายน้ำพริ้วไหว

ชั้นที่ 4 ธารหัวใจ ลักษณะสายน้ำไหลลงจากหน้าผา กระทบโขดหินขนาดใหญ่ และวแยกเป็น 2 สายก่อนมาร่วมกันเป็นธารน้ำ มองดูคล้ายรูปหัวใจ

ชั้นที่ 5 สไลเดอร์ สายน้ำไหลผ่านร่องหินก่อนตกสู่แอ่งน้ำกว้างคล้ายรางสไลเดอร์ในสวนน้ำ

ชั้นที่ 6 เพ้อธารา สายน้ำที่ตกจากหน้าผาสูงไหลลดหลั่นลงมา เนื่องจากชั้น 5 ถึงชั้น 5 ระยะทางค่อนข้างไกลและชันมาก แต่ก็จะมาเจอกับความงามของชั้นที่ 6 ทำให้เคลิกเคลิ้มได้

ชั้นที่ 7 ผาโกรกอีดก น้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงชันและกว้างมาก มองดูคล้ายทีลอซู จนได้รับการขนานนามว่า ทีลอซุแห่งเขาใหญ่

ทางบางช่วงบางตอนก็ค่อนข้างอันตรายนะคับ หินค่อนข้างลื่น และกระแสน้ำบางจุดก็ค่อนข้างแรง แต่ระหว่างทางผมก็ไม่พบสัตว์ร้านหรือตัวทากครับ จะเจอก็แค่ ธรรมชาติ และ ธรรมชาติ

บางช่วงเราต้องปีนหินขึ้นไปตามรูปด้านล่างครับ ซึ่งถ้ามาเองโดยไม่มีคนนำทางจะไม่รู้เลยว่าจะต้องเดินขึ้นไปทางไหน อันตรายทีเดียว.. แต่บางช่วงก็จะเป็นทางลาดยาวๆเพื่อเดินลัดเลาะตามรอยเท้าไปเรื่อยๆ

ตัวน้ำตกจะมีทั้งหมด 7 ชั้นครับ ระหว่างทาง เราก็จะเจอกับชั้นน้ำลกเล็กๆ แต่ละชั้นก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามตามธรรมชาติ ซึ่งน้ำตกแต่ละจุดก็ทำให้เราได้หยุดพักเหนื่อยได้ เล่นได้ ถ่ายรุปได้

เดินมาประมาณ 2 ชม. ซึ่งต้องบอกว่าเหนื่อยและเมื่อยคับ ไม่ได้โกหก เพราะทางขึ้นเป็นทางชัน ต้องปีน ต้องป่าย และบางช่วงเป็นทางชันยาว เมื่อยเลยทีเดียว… รู้ตัวอีกทีเดินขึ้นมาสูงแล้วครับ เราจะได้ยินเสียงน้ำตกไกลๆ…

เงยหน้ามองอีกที เจอแล้วครับ! น้ำตกโกรกอีดก หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

สัมผัสแรกคือ สวยงามตระการตามากครับ น้ำกระเซ็นเป็นละอองเบาๆทั้วบริเวณส่วนล่างของน้ำตก ซึ่งด้านล่างก็มีมีจุดให้เราได้นั่งพัก ได้ถ่ายรูป แต่ก็สามารถปีนขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ แต่ทางชันมาก ไม่นิยมปีกขึ้นไปหลังจากนี้ครับ

เนวิเกเตอร์ตั๊บ ขอต้อนรับทุกคนสู่น้ำตกโกรกอีดก ทีลอซูเขาใหญ่ ไม่เสียแรงที่เดินขึ้นมาและคิดถูกแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านไปก่อนตั้งแต่เมื่อวานครับ เพราะมาถึงแล้วยังไงก็ต้องขึ้นมาให้ได้

รูปด้านล่างนี้เป็นส่วนตีนน้ำตก น้ำแรงมาก จะเดินข้ามมาต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควรครับ จุดตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่นิยมตั้งกล้องถ่ายรูปเพราะเป็นมุมต่ำสามารถเก็บรูปน้ำตกได้หมดครับ

มุมอื่นๆก็สามารถ่ายรูปน้ำตกได้สวยๆทุกมุมครับ

ผมใช้เวลาสัมผัสบรรยากาศที่น้ำตกประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ท่าทำฝนเริ่มจะตกและลงเม็ดปรอยๆ และได้เวลาที่เราจะต้องเดินลงเขาพอดี ทำให้การเดินทางลงเขายากลำบากขึ้นเพราะทางจะแฉะและลื่น

ผมใช้เวลาสัมผัสบรรยากาศที่น้ำตกประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ท่าทำฝนเริ่มจะตกและลงเม็ดปรอยๆ และได้เวลาที่เราจะต้องเดินลงเขาพอดี ทำให้การเดินทางลงเขายากลำบากขึ้นเพราะทางจะแฉะและลื่น

การเดินลงเขาเร็วกว่าการเดินขึ้นแน่นอนครับ เราใช้เส้นทางเดินเดินกลับลงมา แต่ระหว่างทางก็จะมีสวนทางกับกลุ่มนักท่องเที่ยงคนอื่นๆบ้าง 1-2 กลุ่ม

หลังจากลงมาจากน้ำตกเสร็จผมก็แวะไปคุยกับชาวบ้านต่อเล็กน้อยและก็ขับรถกลับกรุงเทพเลยครับ ซึ่งต้องบอกว่าทริปน้ำตกโกรกอีดกครั้งนี้ผมแฮปปี้มากและยังติดตาตตรึงใจในความสวยงามของน้ำตกอยู่เลย

สิ่งของที่ต้องเตรียม

จริงๆไม่ต้องเตรียมอะไรมากครับ นอกจากพวกน้ำดื่มและข้าวกลางวันแล่้ว อยากให้เตรียมเรื่องรองเท้าดีๆ เพราะต้องลุยน้ำ ลุยโคลน ทำให้รองเท้าผ้าใบธรรมดาที่ผมใส่มาไม่โอเคเลย ลองเตรียมรองเท้าที่เหมาะแก่การเดินป่า และลุยน้ำได้มาด้วย เพราะได้ลุยน้ำแน่ๆ

และข้อแนะนำสำหรับใครที่อยากมาแบบนี้ต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เตรียมพร้อมสำหรับการเดินตลอด 2-3 ชั่วโมงมาด้วยนะครับ ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบสบายๆครับ ผมให้ความลำบากเลเวล 4/10 ครับ

ข้อมูลการติดต่อ

อัพเดทการติดต่อเจ้าหน้าที่ เดือน กันยายน 2562

สำหรับใครที่อยากจะไปอาจจะต้องมีเจ้าหน้าที่พาเดินเข้าป่าไปด้วยครับ ลองติดต่อตามเบอร์ด้านล่างนี้ครับ

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.18 (เต็ดคต) 095-632-4449, 089-800-8216

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.18 (ชะอม) 087-041-3013

ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านบึงไม้ โทรศัพท์ 092-525-9156