ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดที่อยากเสริมจมูก เพราะเชื่อว่าจะให้เราหล่อดูดีขึ้น มั่นใจขึ้น แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆ ว่าเสริมดั้งมาแล้วมันจะเหมาะกับหน้าเราไหม จะโป๊ะไหม จะเจ็บไหม.. ผมบอกตรงนี้เลยครับว่าถ้าเลือกคลีนิคเสริมจมูกที่เราไว้ใจได้ ไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งนั้นครับ สวยหล่อใบแบบฉบับตัวเองแน่นอน

เสริมจมูกใหม่ครั้งแรกในชีวิต
ดังนั้นรีวิวนี้ผมเต็มที่และเต็มใจมากๆ.. ที่อยากแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกด้วยตัวผมเอง ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบคุณหมอ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด-ตัดไหม ตลอดจนการอัพเดทความเปลี่ยนแปลงของทรงจมูกตลอด 30 วัน เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูกเหมือนกันครับ

GoodWill Clinic สาขาสนามเป้า
ก่อนจะไปคุยกับคุณหมอณัฐที่นัดไว้ ผมอยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นบรรยากาศที่กู๊ดวิลล์คลีนิคสาขาสนามเป้า กันก่อน ซึ่งสาขานี้อยู่บนชั้น 2 ของคอมมูนิตี้มอลล์ The Seasons (มีอาคารจอดรถ) ภายในคลีนิคสะอาด บรรยากาศดี และน้องๆทุกคนพูดคุยและดูแลดีครับ



ผมมาครั้งแรก ก็ต้องลงทะเบียนและกรอกประวัติของเรากันก่อน หลังจากกรอกประวัติกันเสร็จแล้ว ก็จะมีน้องๆพาเราไปถ่ายรูป Before เก็บไว้ทุกองศาเลยครับ ทั้งหน้าตรง ด้านข้างซ้ายขวา ด้านเงย

พบคุณหมอเพื่อประเมินจมูกกับโครงหน้า
รอพบหมอประมาณ 30 นาที… เอาจริงๆตอนเจอหมอ ผมเกร็งๆกลัวๆ ยังไงไม่รู้ เลยไม่ค่อยได้พูดอะไรมาก แค่บอกความต้องการของตัวเองไปว่า “ไม่เอาพุ่งมากนะครับหมอ” หลังจากนั้นหมอณัฐก็จะวิเคราะห์จมูกกับโครงหน้าผมอย่างตรงไปตรงมา

ซึ่งเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ทำให้ผมได้รู้ว่าจริงๆแล้วข้อเสียของโครงหน้าผมคือ “กรามส่วนล่างเล็ก” ทำให้ไม่เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจนและ “ทำให้คางดูยุบลงไป” ซึ่งก็จะต้องออกแบบทรงจมูกให้เป็นธรรมชาติ + ก็ต้องแก้ไขข้อเสียของจมูกของผมด้วยที่จมูกค่อนข้างสั้นทู่ และปีกจมูกชมพู่ (ใหญ่และบานนั่นเอง) คุณหมอแนะนำให้ตัดปีกด้วย (ซึ่งผมก็แอบคิดการตัดปีกมาเหมือนกันนะ)

ตัดปีกจมูกพร้อมกับการเสริมจมูก(ได้ไหม)
แต่… หมอแจ้งว่าไม่สามารถทำพร้อมกับการเสริมจมูกได้ ซึงต้องรอให้จมูกหลังเสริมเข้าที่เข้าทางหลังจากเสริมไปแล้วประมาณ 3 เดือนครับ (ก็ดีเหมือนกัน.. เพราะเงินในกระเป๋าก็ยังไม่พร้อม)
“ที่ต้องพูดคุยกับคุณหมอก่อนทำ ก็เพื่อจูนความต้องการของเรากับคำแนะนำของคุณหมอให้ตรงกันครับ.. แต่เชื่อไหม ผมไว้ใจหมอมากๆ เพราะไม่มี Reference ใดๆมาเปิดให้หมอดูเลย.. มั่นใจว่าหมอต้องทำจมูกของเราให้ดีที่สุดอยู่แล้ว มาลุ้นกัน”

ผมเลือกซิลิโคน Mantis รุ่นพิเศษ
คุยกับหมอซัก 30 นาที ก็ออกมาทำความรู้จักกับซิลิโคนที่จะใช้กันครับ ผมเองเลือกซิลิโคน Mantis ที่ดีที่สุดไปเลย (หรือทรงตั๊กแตน) และจัดออฟชั่นเสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียมรองปลายจมูก ด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าจมูกใหม่ผมจะต้องดีที่สุด! และลดความเสี่ยงต่อการเกิดจมูกทะลุได้ด้วย

หลังจากพูดคุยกับทีมงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปักวันกันนัดหมายกับคุณหมอ เพื่อทำการผ่าตัดเสริมดั้งกันเลย.. ซึ่งคิวที่ผมได้เร็วที่สุดคือประมาณ 14 วันหลังจากนี้ครับ (คิวเยอะมากกก)

วันแรกของการเสริมจมูก
ก่อนการผ่าตัดเราต้องเตรียมตัวพอสมควรครับ เช่นเรื่องอาหารเสริมต่างๆที่ต้องงด งดแอลกอฮอลล์มาก่อนล่วงหน้าสัก 1 อาทิตย์ เพื่อลดอาการฟกช้ำและให้เลือดหยุดไหลช้า…. เอาเข้าจริงๆ วันนี้ผมตื่นเต้นมาก แต่ก็ต้องมาคนเดียว (สบายมาก)


ก่อนการผ่าตัดนั้นผมต้องเซ็นต์เอกสารยินยอมการรับการตรวจรักษา ผ่าตัด / หัตถการ รวมถึงใบยินยอนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูกและตัดปีกจมูก ซึ่งก็จะมีรายละเอียดที่เราต้องทำความเข้าใจก่อน รวมถึงการรับประกันด้วยครับ (ที่นี่รับประกันให้หลังทำ 1 ปี)
“เมื่อพร้อมแล้วเราก็เดินตามพยาบาลผู้ช่วยเข้าไปเตรียมตัวกันเลยครับ“

ตรวจทุกอย่างก่อนการผ่าตัด
ในวันนี้ผมต้องทำการตรวจความดัน / ตรวจโควิด และต้องตรวจ HIV ก่อนเข้าผ่าตัดด้วยครับ (เท่าที่หาข้อมูลดูพบว่าคลีนิคส่วนมากจะไม่รับเคสผ่าตัดที่คนไข้มีเชื้อ HIV เพราะว่าคนไข้อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายครับ)

รวมถึงพยาบาลเค้าจะทำการทำความสะอาดรูจมูกให้สะอาดวิ้งๆ + พร้อมตัดขนจมูกให้เรา (1 ข้างเท่านั้น) ซึ่งเป็นข้างที่คุณหมอจะผ่าเปิดจมูกเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปคร้าบ (ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าใช้ผ่าแบบไหนมาก่อนระหว่าง semi–open หรือ open)


ตอบตามจริง “เสริมจมูกเจ็มไหม”
เมื่อผมพร้อม.. คุณหมอพร้อมก็ทำการผ่าตัดกันเลยครับ หลายคนมีคำถามเหมือนกันผมว่า.. เสริมจมูกจะเจ็บไหม? ผมตอบได้ตรงนี้เลยว่า “เจ็บมากกกตอนฉีดยาชา” แต่ทนได้ครับ จำได้ว่าฉีดไป 3-4 เข็ม ซึ่งเข็มที่รู้สึกเจ็บที่สุดคือ เข็มที่จิ้มตรงกลางระหว่างคิ้ว.. น้ำตาไหล

ก่อนทำก็ไม่ได้เจอและพูดคุยกับคุณหมอเลย ผมนอนรอปิดตานิ่งๆอยู่บนเตียงสักพักหมอถึงเค้ามา.. แล้วเปิดหน้าดูแล้วถามว่าเอาแบบไหนนะ ไม่พุ่งมากนะ ผมเลยบอกหมอว่า “เอาหล่อๆ แบบเกาหลี” เลยครับหมอ

แต่หลังจากนั้น 5-10 นาทีผมก็ไม่รู้สึกอะไร และไม่เห็นอะไรด้วยครับ เพราะทั้งหน้าถูกทาด้วยเบตาดีนฆ่าเชื้อ (ทั้งหน้าก็จะแห้งๆตึงๆ) และถูกปิดตาเพราะแสงหลอดไฟผ่าตัด มันจ้าสว่างแสบตามาก… ระหว่างทำมีความตื่นเต้นตอนที่หมอตะไบจมูก ผมรู้สึว่าหมอใช้แรงเยอะมาก และหัวใจผมก็เต้นรัวๆ จนพยาบาลต้องมาตบๆให้ใจเย็นๆ (อารมณ์คือแบบ กุมมือตัวเองแน่นแล้วก็ต้องกลืนเลือดตัวเองลงคอไป)


หลังทำทันที.. กับจมูกใหม่
คุณหมอใช้เวลาทำการผ่าตัดเสริมจมูกผมประมาณ 1 ชั่วโมงได้ครับ.. หลังทำทันทีผมยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บความปวดเท่าไหร่ เพราะฤทธิ์ยาชายังมีอยู่ เท่าที่สังเกตจมูกตัวเองดูคือ จะบวมเป่งแค่ตรงบริเวณปลายเท่านั้น แต่ได้สันโด่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.. ไชโย ผมมีจมูกใหม่แล้ว

คลีนิค Goodwill เค้าจะเตรียมยาไว้ให้พร้อม มีทั้งยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ยาลดบวม และจะมีน้ำเกลือ สำลีก้าน หมอนรองคอ และแผ่นเจลประคบให้เราด้วยคร้าบ.. อ๋อ มีกล่องเนื้อเยื่อเทียมให้เราเป็นที่ระลึกกลับบ้านมาด้วย (จริงๆเค้ามีฉายแสงลดบวมด้วย แต่ผมไม่ได้ทำ)

แน่นอนผมขับรถกลับบ้านเองได้อย่างสบายๆ เพราะยังไม่รู้สึกปวดเท่าไหร่ มีแค่อาหารตึงๆหน่วงๆ เท่านั้น และตาผมก็จะตึงๆ กลายเป็นคนตาตี๋ไปเลย.. ระหว่างขับรถก็หยิบเจลเย็นที่แช่เย็นมาให้เราพร้อมใช้ ประคบเย็นหลังผ่าตัดขณะรถติดไปด้วยเลย.. (เริ่มอยากนอนเพราะเพลียแล้ว)

หลังผ่าตัด 1-3 วันแรก
หลังทำจมูก 1-3 วันแรกของผม คือ “ไม่มีอาการบวมไม่ช้ำเขียวม่วงจนน่าตกใจเลย” คือไม่ใช่ผมโชคดีนะ แต่หลายๆเคสของที่นี่ ก็ไม่บวมไม่ช้ำกันเท่าไหร่ เรียกได้ว่า คุณหมอมีประสบการณ์และมีเทคนิคในผ่าผ่าตัดเสริมจมูกที่ดีมาก

การดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมจมูก
แน่นอนว่าแผลห้ามโดนน้ำก่อนตัดไหม.. และเราต้องทำความสะอาดแผลเป็นประจำทุกเช้า-เย็นด้วยน้ำเกลือเช็ดแผล (วันที่ 2 ก็ไม่มีเลือดแล้วครับ) ช่วงนี้เราจะรู้สึกถึงความตึงๆ ที่แผลด้านในจมูกครับ

ผมเองดูแลแผลผ่าตัดอย่างดีตามคู่มือคำแนะนำที่ให้มา ทั้งในเรื่อง “การทำความสะอาด การประคบเย็น ไม่ทานของแสลง ไม่ทานเผ็ด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่โดนน้ำ นอนหมอนสูง การทานยาแก้ช้ำบวม-แก้อักเสบให้ตรงเวลา” ซึ่งสิ่งที่ต้องทำมันจำเป็นมากๆเพื่อให้แผลเราหายไวและไม่อักเสบติดเชื้อครับ

“ซึ่งบางอย่างก็ทรมานเราเอามากๆ โดยเฉพาะการนอนหมอนสูงกับหมอนรองคอ แต่ก็ต้อง อดทน! เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ออกมาดีที่สุดเหมือนที่คุณหมอเค้าตั้งใจทำให้เราครับ.. และจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวแก้บ่อยด้วย”


และกลังการผ่าตัดเสริมจมูกมาแล้ว ทางคลีนิคเค้าก็จะมี Clinic Assistant ให้เราติดต่อทาง LINE ครับ ทางนี้เราก็จะสามารถแจ้งความผิดปกติของจมูก รวมถึงอัพเดทอาการให้ทางคลีนิคทราบในทุกๆวันช่วง 1 สัปดาห์แรกๆเพื่อช่วยติดตามอาการ และสอบถามใดๆผ่านทางไลน์ได้เลยได้เลย เผื่อถ้าเห็นความผิดปกติจะได้รีบเข้ามาพบคุณหมอได้ทันท่วงที

ระวังการหาว, จาม, ไอ และน้ำมูก
ช่วงแรกๆนี้ “จะไอทีนึง น้ำตาแทบไหล” จะหาวจะจามอยู่หลายทีก็ต้องอั้นเอาไว้ให้ได้ และพยายามจามเบาๆ อย่างทรมาน เพราะกลัวจะกระเทือนกับจมูกใหม่ที่ยังไม่เข้าที่ดี

คนเป็นภูมิแพ้ต้องรู้
และสิ่งที่เป็นปัญหาของคนที่พึ่งทำจมูกมา “แต่เป็นภูมิแพ้” ก็คือต้องระวังเรื่องของการที่เป็นภูมิแพ้ขึ้นหลังทำจมูกครับ เพราะมันจะจาม ไอ มีน้ำมูกไหลได้ตลอดเวลา ซึ่งจะกระทบต่อแผลหลังเสริมจมูกแน่นอน

ส่วนตัวจะพยายามไม่ออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศที่ไม่ดีและสารก่อภูม้แพ้ทั้งหลาย (ผมแพ้น้ำหอมและแพ้อากาศ) อีกทางหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือ ต้องทานยากันภูม้แพ้ดักเอาไว้เลยครับทุกเช้า

การทำความสะอาดหน้า
เนื่องจากล้างหน้าไม่ได้.. ผมใช้วิธีเช็ดหน้าเบาๆด้วยสำลีชุบน้ำเกลือในตอนเช้า และตอนเย็นผมก็ใช้ Cleansing water และ วันที่ 3-4 เริ่มมีอาการคันๆ อยากเกา คิดว่าแผลน่าจะเริ่มแห้งแล้วทำให้เรารู้สึกคันนั่นเอง… ทำได้แค่เอาก้านสำลีแตะๆเบาๆ

และหลังจากนี้ก็จะเป็นการอัพเดทอาการจนถึงวันนัดตัดไหมนะครับ อ๋อ.. ช่วงนี้ที่ต้องระวังอย่างนึงก็คือเรื่อง “การใส่แมส” เพราะว่าหน้ากากด้านบนเป็นโครงเหล็กอาจจะบีบสันจมูกของเราได้ ซึ่งต้องเลี่ยงและพยายามไม่ออกไปไหนครับ (ถ้าจำเป็นจริงๆให้กลับด้านครับ)

กำหนดวันตัดไหม 14 วันหลังผ่าตัด
ผมนัดวันตัดไหมทาง LINE กับน้องที่คลีนิคที่ดูแลเราครับ โดยวันตัดไหมจะเป็นพยาบาลที่จะตัดไหมให้เรา ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากเพราะไม่ได้รอคิวหมอครับ…
ขั้นตอนแรกก็จะทำความสะอาดแผลก่อน ซึ่งมันเป็นคราบเลือดที่แข็งตัว (ใช้สำลีชุบแอลฯทำให้แผลชุ่มก่อนทำการตัดไหม) แต่อุปสรรค์ของผมคือเป็นคนค่อนข้าง Sensitive กับจมูก.. พอตัดไหมได้ทีสองที ผมก็มีอาหารจามตลอด ทำให้น้ำหูน้ำตาไหล จนกว่าจะเสร็จก็ต้องพักเป็นช่วงๆ ครับ เรียกว่าทุลักทุเลพอสมควร


หลังจากตัดไหมเสร็จแล้ว ก็จะห้ามโดนน้ำต่ออีก 3-4 วันครับ เพื่อที่จะได้ให้แผลเราแห้งดีและไม่เกิดการติดเชื้อ โดยจะต้องทำความสะอาดแผลเหมือนเดิม ” แต่ครั้งนี้จะให้เช็ดด้วยน้ำเกลือ และทาเบตาดีนที่แผลด้วยครับ”

ฟิลล์หลังตัดไหม 14 วันหลังเสริมจมูก
โดยรวมถือว่าผ่านมา 14 วันหลังเสริมจมูก แผลของผมค่อนข้างหายไวครับ เพื่อนที่รู้ว่าไปเสริมจมูกมายังตกใจ “เพราะไม่บวมช้ำเลย” มีแค่บริเวณหัวตาเล็กน้อยเท่านั้นครับ และก็มีหลายคนถามว่าทำจมูกที่ไหนมา เพราะมันดูดีดูหล่อขึ้นเยอะมาก (แอบเขิน)

ส่วนตรงปลายจมูกที่ หมอใช้เนื้อเยื่อเทียม “จะยังไม่สมานกันดีครับ” ต้องใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อให้เนื้อเยื่อของเรากับเนื้อเยื่อใหม่ได้รู้จักกัน ซึ่งเป็นปกติที่ตอนนี้ตรงปลายจมูกนี้ยังบวมและแดงอยู่ครับ

ช่วงวันที่ 14-30 วัน
ดังนั้นตอนนี้จะเหลือแค่ตรงปลายที่ยังบวมเล็กน้อย รอบช้ำที่หัวตาหายแล้ว ส่วนอาการเจ็บเรียกว่าแทบไม่มีแล้วครับ ทั้งตอนจามตอนไอตอนหาว แค่มีอาการตึงๆ บริเวณแผลเท่านั้นครับ.. พาไปออกงานครั้งแรกคือ “ผมมั่นใจกับการถ่ายรูปมาก” เพราะหน้าดูคมและมีมิติขึ้นกว่าแต่ก่อน

พบคุณหมอ 1 เดือหลังผ่าตัด
เมื่อใกล้ครบกำหนด 1 เดือน ทางคลีนิคก็จะนัดหมายให้ผมไปพบกับคุณหมอครับ ซึ่งรอบนี้คุณหมอก็จะเป็นคนที่ดูแผลผ่าตัดเสริมจมูกให้เรา โดยหมอแจ้งว่า “แผลแห้งหายดีแล้ว” แต่ยังมีอาการบวมและแดงปลาย 3 เดือนถึงจะหาย

โดยตอนนี้ก็สามารถกลับมาทานอาหารได้ปกติทุกอย่างละ (อยากกินอาหารทะเลมาก) และสามารถกลับมาออกกำลังกายเบาๆได้แล้ว เช่น ว่ายน้ำ เวทเบาๆ วิ่งเบาๆ แต่ยังต้องระวังเรื่องการออกกำลังกายที่เน้นการกระโดด/กระแทกอยู่นะครับ

ความรู้สึกหลังเสริมจมูก 1 เดือนนิดๆ
ก็ต้องบอกตรงๆว่าค่อนข้างพอใจมากนะครับ เพราะแผลผ่าตัดหายดี ไม่เกิดการอักเสบติดเชื้อ ยังเหลือแค่รอให้ซิลิโคนเข้าที่และรัดแกนมากกว่านี้ รวมถึงรอให้อาการบวมปลายจมูกหายดีกว่านี้ ซึ่งหมอบอกว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครับ.. ซึ่งตอนนี้ก็ถ่ายรูปหล่อขึ้นมากๆ เพราะหน้าดูคมขึ้น ได้คนละฟิลล์กับตอนจมูกเก่าที่จะดูแบ๋วๆใสๆ

ปล. รูป Before – After ทั้งหมดจะเป็น รูปก่อนและหลังทำจมูกมาแล้วอยู่ในช่วงประมาณ 1 เดือน 1 สัปดาห์นะครับ เอามาเปรียบเทียบในมุมที่แตกต่างกันให้ดูว่าดั้งใหม่ผมถ่ายรูปออกมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งผมชอบด้านข้างที่สุดละ เพราะเห็นชัดเจนมาก… แต่ยังคิดว่าอยากให้ปลายหายไวๆ น่าจะพุ่งเป็นสันมากกว่านี้อีกนิดดดนึง ><

ผมายังคิดอยู่ครับว่า “รีวิวตัดปีกจมูก” ต้องมาแล้วไหม? หรือว่าแค่นี้มันพอดีเข้ากับหน้าของผมแล้วดีครับ?


และอยากชมรีวิวแบบวีดีโอคลิป ดูคลิปรีวิวใน Tiktok ด้านล่างได้เลยครับ (ตกใจเหมือนกันครับ ยอดวิวเกือบ 2 แสนวิวแล้ว)
สมัยนี้ผมว่าไม่แปลกเลยที่ผู้ชายจะหันมาสนใจเรื่องศัลยกรรม โดยเฉพาะเรื่องการทำจมูกผู้ชายผมว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ ที่เราจะหันมาดูแลตัวเองให้ดูดี แต่ก็อย่าลืมเรื่องการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพจิตกันด้วยนะคร้าบ รับรองว่าหล่อขึ้นได้ในแบบฉบับของเพื่อนๆแน่นอน.. ท้ายนี้ถ้าถามว่าเสริมจมูกผู้ชายที่ไหนดี รีวิวนี้คงมีคำตอบให้เพื่อนๆได้ตัดสินใจกันแล้วนะคร้าบ.. XOXO
เว็บไซต์กู๊ดวิลล์คลีนิค https://www.goodwillaesthetic.com
แผนที่และเบอร์ติดต่อ GoodWill Clinic
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
