Jabra เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ผมมั่นใจคับ ว่าของเค้าดีและไม่ผิดหวัง Bluetooth Speaker ที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็เป็นของ Jabra รุ่น Solemate สีแดง ใช้มาเป็นปีแล้วไม่เคยงอแงเลย เวลาไปเที่ยวพกไปเครื่องเดียวจบ เสียงดีเบสเยี่ยม มีแต่คนถามว่ายี่ห้ออะไร พูดดเต็มปากเลยว่าของ Jabra (แต่หลายคนก็ไม่คุ้นยี่ห้อนี้นะ เป็นแบรนด์ฝั่งยุโรปเลยนะจิบอกให้)…. วกกลับมาที่หูฟัง Bluetooth ของเล่นใหม่ของผมกันดีกว่าฮะ

Jabra Classic แบบหูเดียว
ก่อนหน้านี้ผมใช้ bluetooth headsets (หูฟังบลูทูธแบบหูเดียว) เพื่อใช้คุยโทรศัพท์เวลางานหรือขับรถ บางทีก็รู้สึกว่ามันดูแก่ไปหน่อย ลุคเราก็ไม่ได้ดูเป็นนักธุรกิจขนาดน๊านน (ยังวัยรุ่นอยู่นะ จริงๆ บางทีใส่ยืดกะยีนส์มันไม่ค่อยเข้ากะหูเท่าไหร่ มีเขินๆ) เลยใช้เฉพาะตอนนั่งโต๊ะที่ออฟฟิศหรือขับรถ แต่ก็ชอบลืมทิ้งไว้ นั่นแหละปัญหา
Introduction & Unboxing

Jabra Halo Fusion รุ่นใหม่
หูฟัง Bluetooth นี่ผมเปลี่ยนมา 3 ยี่ห้อละคับ เคยซื้อตั้งแต่ของถูกๆ จนแพง ซึ่งของถูกๆ พวกนี้เป็นอะไรที่ “อย่าซื้อเด็ดขาดคับ” ไม่คุ้มค่ากับความหงุดหงิดภายหลัง เพราะเสียงจะขาดๆหายๆ ต้องตะโกนคุย เสียบหูนานๆก็จะมีอาการปวดหูคับ ยี่ห้อสุดท้ายก็เป็น Jabra นี่แหละแบบว่า ไม่ต้องตะโกนคุย ปลายสายได้ยินชัดเจน และที่สำคัญ เสียบหูนานๆไม่รู้สึกปวดหู เลยค่อนข้างรู้สึกดีกับ Jabra พอสมควร
สำหรับ Jabra Halo Fusion เป็นรุ่นที่ 3 ละคับ ในตระกูล Halo (เฮโล) เท่าที่หาข้อมูลเก่าๆดู ดีไซน์รุ่นนี้ เทียบกับ Jabra Halo รุ่นก่อนหน้านี้ค่อนข้างเปลี่ยนไปแบบ minor change เลยทีเดียว จากที่รุ่นก่อนเป็นแบบครอบหูพับได้ ดีไซน์ใหม่เป็นแบบหูฟังบลูทูธสเตอริโอคล้องคอ (on neck headset) เห็นพี่เค้าว่าเหมาะกับการฟังเพลงด้วยและให้ความสมาร์ทแบบหนุ่มออฟฟิศด้วยได้ในเครื่องเดียว (เหมาะกะเราจีๆ)

Unboxing
หลังจากที่ได้ใช้มา 3 วันเพื่อปรับสภาพเสียงของหูฟังใหม่มาก่อนหน้านี้แล้ว ก็พร้อมเขียนรีวิวเจ้าตัวนี้แล้วครับ เริ่มที่แกะกล่องกันก่อนว่ามีอะไรมาให้บ้าง

เพิ่ม ear buds มาให้อีก 2 set รวมแล้วมี 3 คู่ ขนาด S, M และ L
แน่นอนว่าต้องมี 1. Jabra Halo Fusion ไง 2. มีสายชาร์จแบบ micro USB (สั้นไปหน่อย) 3. มีคู่มือการใช้งาน + Warranty 4. และมี earbuds อีก 2 ชุดครับ (เอาไว้เปลี่ยนกรณีรูหูท่านมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน)
ดีไซน์พกพาสะดวกดีคับ (พาดไว้บนคอไง) ขนาดเบาหวิวเพียง 21 กรัม ออกแบบให้ไมโครโฟนและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ปลายก้านทั้งด้านซ้ายและขวา (ที่ต้องเป็นก้านคล้องคอคอ ก็จะได้คุยสายได้สะดวกไง ถ้ายื่นมาเหมือน call center สิจะแปลก)
ก้านอ่อนบิดไปบิดมาได้แต่แข็งแรงดี (พับไม่ได้) ด้านในเป็นลวดเส้นเล็กๆ หุ้มด้วยยางนุ่มๆ (น่าจะพับใส่ตลับเล็กๆได้ด้วยจะให้เต็ม 10 เลย)
ส่งโดยตรงจากทาง RTB ตัวแทนจำหน่าย Jabra ในประเทศไทย
ก้านซ้ายมีปุ่ม Multi-function control ใช้เปิด-ปิด, รับสาย-วางสาย, เปิด bluetooth และ Pairing mode ผ่านปุ่มนี้ปุ่มเดียว และโลโก้ Jabra
ส่วนก้านด้านขวาจะมีปุ่ม control ขึ้น-ลงครับ ซึ่งควบคุมได้ทั้ง sound volume และ tracking control ในปุ่มเดียว มีพอร์ท Micro USB (มีจุดปิด) ไฟ LED Status กับไมโครโฟนอยู่ฝั่งนี้ และโลโก้ Jabra
การเชื่อมต่อกับ smartphone
ก่อนอื่นต้องเปิด Bluetooth เป็น Pairing Mode ก่อนครับ > กดปุ่ม multi-function ด้านซ้ายค้างไว้ประมาณ 3 วินาที ไฟ แล้วสังเกตไฟ LED จะกระพริบสีแดงสลับน้ำเงินครับ
ไปที่โทรศัพท์ของเรา เข้า Bluetooth setting และสแกนหา new device ครับ
เลือก Jabra Halo Fusion v1.3.0 ได้เลย รอ Pairing และ ขึ้นคำว่า connected เป็นอันเชื่อมต่อเสร็จ (อ่อ ระยะการเชื่อมได้นี่ได้ประมาณ 10 เมตร)
Jabra Halo Fusion ตัวนี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน bluetooth ได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์ครับ สะดวกมาก เหมาะกันคนที่พกโทรศัพท์ 2 เครื่อง หรือโทรศัพท์ 1 เครื่อง Tablet 1 เครื่องก็ยังได้ (เสียดายน่าจะเป็นไมโครโฟนตอนอัดวีดีโอได้ด้วย จะเจ๋งมากเลย)

เชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน bluetooth ได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์
การชาร์จแบตเตอรี่และชั่วโมงการใช้งาน
ผมทดสอบการชาร์จ โดยใช้ให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงก่อน แล้วชาร์จผ่าน USB Adapter ตอน 22.20 ขึ้นเต็มตอน 23.25 (ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงเอง) ในคู่มือระบุว่าชาร์จประมาณ 2.5 ชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม
ผมทดสอบชั่วโมงการใช้งาน โดยเปิดใช้งานทั้งวันและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ตลอดวัน ตั้งแต่ 10.10 เปิดเพลงฟังตลอด สลับกับรับสายโทรออกบ้าง เสียงเตือน Battery Low ตอน 00.30 ขณะนอนดู Youtube อยู่บนเตียง และดับไปตอน 00.35 เท่ากับว่า ใช้ได้ประมาณ 14 ชั่วโมง จนแบตเกลี้ยง
การสวมใส่และการใช้งาน
ใส่แบบที่ผมใส่ในรูปแหละครับ (เท่ห์ปะละ) ใส่เดินไปไหนมาไหนได้โดยไม่เค้อเขิน การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากครับ มีปุ่มอยู่ 2 ปุ่มเอง และมีเสียง status ทุกการกดคำสั่งผ่านปุ่ม
หูฟังก็จับยัดเข้าไปในหูครับ ยางนุ่มๆจะช่วยซัพพอทให้ไม่เจ็บ และกันเสียงจากภายนอกได้เป็นอย่างดี สามารถปรับความย้วยของสายได้จากตัวหนีบสายกับก้าน
วิธีเปลี่ยน earbuds ก็แค่จับบริเวณโคนแน่ๆแล้วบิดออกมาครับ ตอนใส่ก็จับยัดลงไปให้พอดีล็อค เท่านี้เป็นอันเสร็จ
ด้านการฟังเพลง ดู Youtube
ผมลองใช้ equalizer ช่วยปรับรูปแบบเสียงตามที่เราต้องการได้ ซึ่งหูฟังบลูทูธตัวนี้ก็สามารถถ่ายทอดการ customize จาก smartphone ได้ดีพอสมควร ดู MV หรือ Series ผ่าน Youtube ก็ไม่ดีเลย์แต่อย่างใด
ถ้าปรับเสียงก็กด control ด้านขวา 1 ที จะมีเสียง บี๊บ บอกระดับเสียง ถ้าจะเปลี่ยน track ก็กดค้างไว้ 1 วินาที จะมีเสียงส่งสัญญาณเช่นกันว่า เปลี่ยน track รวมถึงสามารถสั่งให้ rewind/forward ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าจะ Pause ขณะ Play อยู่ก็กดปุ่ม Multi-function 1 ทีฮะ ซึ่งใช้กับ Youtube App ได้ด้วย
เรื่องเบสก็พอใจในระดับหนึ่งครับ แต่คงจะสู้หูฟังแบบครอบที่เกิดมาเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะไม่ได้ ตัวนี้ค่อนข้างให้เสียงแหลมชัดเจน ถ้าเปิดดังสุดทั้งตัวโทรศัพท์และหูฟังบลูทูธ สังเกตได้ว่าจะมีเสียงสั่นเล็กน้อยช่วง Peak tone (ถ้าฟังเพลงปกติจะลดลงมาอีก 1 ระดับ)
ด้านการสนทนา
ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ดี คุยได้สบายๆไม่ต้องตะโกน ปลายสายได้ยินเสียงชัดเจนแม้จะอยู่ในออฟฟิศที่มีเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ ขณะฟังเพลงอยู่ ถ้ามีสายเข้า เพลงจะตัดอัตโนมัติ สามารถกดรับสายจากปุ่ม multi-function ได้เลย

จับมาจัดฉากกับอุปกรณ์จำเป็นซะหน่อยฮะ เพื่อความสวยงามตามท้องเรื่อง
สรุปก็คือ Jabra Halo Fusion ตัวนี้เน้นที่ฟังก์ชั่นการใช้งานใน 2 สไตล์ ตอบโจทย์การใช้ให้กับคนชอบฟังเพลงด้วย และอยากได้ small talks headset ด้วย เป็น All-in-one ครับ เปลี่ยนลุคการแต่งตัวก็ใส่เข้ากันได้โดยไม่เขิน (ผมก็ใส่ทั้งวัน แถมไม่ลืมทิ้งไว้ด้วย)
ข้อแนะนำ
** ไม่เหมาะกับเอามาใส่วิ่งนะครับ เพราะว่าบริเวณก้านจะมาตีใหปลาร้าเจ็บ…
วีดีโอ Feature product จากทาง Jabra (สวยดี ชอบๆ)
Jabra Halo Fusion ราคา 2,190 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Jabra Halo Fusion มีทั้งภาษาไทยและเว็บไซต์ของ Jabra
RTB – http://www.rtbtechnology.com
Jabra – http://www.jabra.com
ดาวน์โหลดข้อมูลเชิงเทคนิค (.pdf)
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
