Secure Digital Card หรือ SD Card ( คือ Memory Card หรือ Flash Memory ประเภทหนึ่ง) เป็นการ์ดหน่วยความจำที่พวกเราเอาไว้ใช้เก็บไฟล์ดิจิทัลเหมือน USB Flash Drive นี่แหละครับ ส่วนใหญ่เราก็จะนิยมใช้กับ Digital Devices ต่างๆที่รองรับ เพื่อเพิ่ม(หรือใส่)พื้นที่การจัดเก็บข้อมูลให้สามารถอ่านและบันทึกไฟล์ได้
แน่ใจแล้วเหรอครับ.. ว่าเลือกซื้อ SD Card / microSD เพียงเพราะราคาถูกอย่างเดียว… “ระวังของปลอม ระวังความจุปลอม ระวังสัญลักษณ์ปลอม“
SD Card มันกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับกล้องถ่ายรูปกล้องถ่ายวีดีโอดิจิทัล ถ้ากล้องใดๆ ไม่มี Internal storage ในตัว สภาพสู่ขิตแน่นอน ยังไงก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ด้วยถึงจะใช้งานได้!

เดี๋ยวนี้ราคา SD Card / microSD Card ถูกกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ “ถูกเหมือนซื้อผักซื้อปลา” ใช้กันได้อย่างทิ้งๆขว้างๆได้เลย ซึ่งผมอยากจะบอกว่า “ราคากับเทคโนโลยี” มันมักจะสวนทางกันเสมอครับ…ดังนั้นผมอยากจะแชร์การเลือกสเปคเพื่อซื้อ SD Card สำหรับใส่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะกับการใช้งานของเรากันครับ
ยี่ห้อ / แบรนด์
ทำไมยี่ห้อถึงสำคัญ? เพราะยี่ห้อบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ คุณภาพและการดูแลหลังการขาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีเงื่อนไขและระยะเวลาการรับประกันที่แตกต่างกันออกไป (แบบ Lifetime ก็มี!) ถ้าอยากรู้ว่ายี่ห้อไหนดี ไม่ดีอย่างไร “สอบถามได้ที่อากู๋” เหมือนผมได้เลยครับ แต่ๆๆ ไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อใดๆก็แล้วแต่… ต้องซื้อจากแหล่งขายที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะปัจจุบันมีการจำหน่ายของปลอมเกรดต่ำกันเยอะมากๆ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน
ระวังยี่ห้อปลอม…. เดี๋ยวนี้ทำเหมือนมว๊ากกกกกก ยี่ห้อปลอม Low Quality มีวางขายทั่วไปตามอีคอมเมิร์ชที่เราใช้ซื้อของกันจนชินแล้ว บางครั้งเราดูแค่ “ราคาถูกกว่า + ความจุเยอะกว่า” แต่ไม่ได้ดูเลยว่าคนขายมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน โดยเฉพาะของที่ระบุว่าส่งมาจากจีน… ต้องระวังเป็นพิเศษครับ ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า “ปลอมแน่นอน”
*แต่ละยี่ห้อเค้าก็จะมีรุ่นที่อาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามเทคโนโลยีครับ เช่น SanDisk Ultra, SanDisk Extreme
ความจุ (Capacity)
ความจุเป็นตัวแปรอันดับแรกๆ ที่เราเลือกซื้อ SD Card ใช่ไหม.. ถ้าใช่! อาจจะต้องดูด้วยครับว่า *อุปกรณ์ของเรารองรับความจุของการใส่ Memory Card ได้สูงสุดเท่าไหร่ : ซึ่งความจุที่วางขายในตลาดที่หาซื้อได้ทั่วไปตอนนี้มีตั้งแต่ 2GB จนถึง 1TB เลยครับ ยิ่งความจุเยอะขึ้น ราคาก็จะสูงตามเช่นกัน : แน่นอนว่าการเลือก Memory Card ที่มีความจุสูงๆ ก็ช่วยให้เราเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ในอันเดียว *แต่ให้ระวังเอาไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้ามันพัง หรือหาย คือ สูญสิ้นข้อมูลทั้งหมด
ความจุปลอม ของลอกเลียน (หรือของปลอม) เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความจุของที่ระบุมาบนแพคเกจจิ้งนั้นถูกต้องหรือไม่ นอกจากจะตรวจสอบความจุจาก Software หรือ Application ที่ใช้ในการตรวจสอบความจุของ Memory Card

ความเร็วในการอ่าน/บันทึก (Class)
หลายคนไม่รู้ว่า “ที่ความจุเท่ากัน” แต่ราคาต่างกันหลายเท่า.. จริงๆแล้วมาจากเรื่องมาตราฐานความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่แตกต่างกันนี่แหละครับ (เลข 2 ตัว ที่ระบุ ส่วนใหญ่ความเร็วในการอ่าน จะมากกว่าความเร็วในการบันทึกหรือเขียน)
เทคโนโลยีใหม่ๆ มีมาตราฐานในการเขียนและอ่านข้อมูลที่สูงขึ้น จึงทำให้อ่าน/บันทึกได้เร็วขึ้นด้วย บวกกับความจุที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งทำให้มันเหมาะกับการบันทึกภาพ/วีดีโอที่ต้องการความละเอียดสูงๆ เช่น 4K / 8K หรือ RAW 4K โดยเทคโนโลยีที่มีความเร็วสูงสุดในการบันทึกในปัจจุบันอยู่ที่ 1,200MB/s และความเร็วสูงสุดในการอ่านในปัจจุบันอยู่ที่ 1,700MB/s *SanDisk รุ่น Extreme Pro CFexpress ราคาประมาณ 10,000.-THB ในขนาดความจุ 128GB (ย้ำ! ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วยว่ารองรับหรือไม่จ้า)
ดูได้จากสัญลักษณ์บนการ์ด เช่น C+2,4,6,10 เช่น C10 = Speed Class 10 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียน 10MB/s (10 เมกะบิตต่อวินาที ) หรือ U+1,3 เช่น U3 = UHS Class 3 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียน 30MB/s (30 เมกะบิตต่อวินาที ) หรือ V+6,10,30,60,90 เช่น V90 = Video Class 90 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียนวีดีโอได้ที่ 90MB/s (90 เมกะบิตต่อวินาที ) เป็นต้น
*เสริมความรู้ C10 = U1 = V10 สัญลักษณ์ทั้ง 3 ตัว มีความเร็วในการเขียนเท่ากันที่ 10MB/s
** ถ้าเอาไว้ใช้ถ่ายวีดีโอ ให้พิจารณาการ์ดจาก Video Class เช่น ถ้าจะเอาไปใช้กับกล้องวีดีโอ 8K ต้องหาการ์ดประเภท V60 หรือ V90 เท่านั้น

ประเภทของการ์ด : SD Card / microSD Card
มีหลากหลายรุ่นตาม เทคโนโลยี x ความเร็วอ่าน x ความเร็วเขียน x ความจุ เรียงตามเทคโนโลยี (ที่อธิบายไปก่อนหน้านี้) คือ SD, SDHC, SDXC และ SDUC ครับ ซึ่งในแต่ละประเภทของ menory card นั้นจะถูกกำหนดด้วยขอบเขตความจุไว้อย่างชัดเจน + ความเร็วการบันทึก/อ่านข้อมูลของการ์ด ทำให้แต่ละประเภทของ memory card มีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องเลือกตามวัตถุประสงค์ตามการใช้งานที่แตกต่างกันด้วยครับ (แต่ในปัจจุบันราคาไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จึงต้องไปดูที่อุปกรณ์หลักของเราว่า “สามารถ” รองรับกับ memory card “ประเภทไหน” ได้บ้างนั่นเองครับ)
ดูได้จากสัญลักษณ์บนการ์ด : มีการกำหนดขอบเขตความจุไว้อย่างชัดเจน- SDSC มีความจุตั้งแต่ 4MB – 4GB- SDHC มีความจุตั้งแต่ 4GB – 32GB- SDXC มีความจุตั้งแต่ 32GB – 2TB- SDUC มีความจุตั้งแต่ 2TB – 128TB

ราคา SD Card/microSD Card
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คงพอจะเดาได้นะครับว่า ถ้า SD Card หรือ microSD Card ที่ราคาแตกต่างกัน เพราะมาจากปัจจัยดังที่กล่าวไว้ด้านบน ซึ่งได้แก่ ยี่ห้อ x ความจุ x ความเร็ว x ประเภทการ์ด นั่นเองจ้าาาา
ดังนั้นสรุปได้ว่า.. ถ้าใครจะเลือกซื้อ SD Card / microSD Card ควรตรวจสอบก่อนว่าอุปกรณ์ของเรารองรับ SD Card / microSD Card ประเภทไหนได้บ้าง รวมต้องรู้ว่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานของเรานั้น “เอาไปใช้ทำอะไร” ซึ่งควรเลือก “สิ่งที่ดีที่สุด” เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาด “ที่น้อยที่สุด” เพราะบางอย่างสูญแล้วสูญเลย เรียกกลับคืนมาไม่ได้นะครับ (เตือนแล้วนะ)
มีความเป็นไปได้สูงมากที่การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในอนาคต อาจไม่ได้อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์เสริมที่ต้องใส่หรือต่อกับ Digital Devices แต่อาจเป็นการจัดเก็บแบบ Cloud Storage เต็มรูปแบบทุกที่ทุกเวลา เช่น ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอผ่านกล้อง แล้วมันสามารถบันทึก Realtime บน Cloud ได้เลย… ซึ่งมันต้องเจ๋งมากแน่ๆ
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
