ผมคิดว่าหลายๆคนสนใจเรื่องการนำหน้าจอจากโทรศัพท์มือถือขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ เพราะฉะนั้นบทความนี้เราจะมาพูดคุยกับเรื่องเทคโนโลยีชนิดหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้เรานำภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเล็ท โน๊ตบุ๊ค ขึ้นไปยังบนทีวีได้ ทั้งทีวีที่เป็นดิจิทัล และแบบธรรมดาๆก็สามารถนำขึ้นได้เหมือนกันครับ เทคโนโลยีชนิดนี้เรียกว่า “Miracast”
Miracast คืออะไร?
ผมอธิบายให้เข้าใจหลักการง่ายๆก็คือ “วิธีการแชร์หน้าจอจากสมาร์ทโฟนของเราไปออกยังหน้าจอทีวีหรือมอนิเตอร์อื่นๆโดยไม่ต้องใช้สาย” ที่หน้าจอมือถือแสดงผลอย่างไร จะไปแสดงที่มอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อเด๊ะเด๊ะ! ซึ่งได้ทั้งภาพและเสียง โดยเทคโนโลยี Miracast ได้ถูกพัฒนาต่อมาจากเทคโนโลยี DLNA ที่ค่อนข้างมีข้อจำกัดอยู่พอสมควรครับ ผู้ที่กำหนดมาตราฐานของเทคโนโลยีนี้ก็คือ Wi-Fi Alliance*1 โดยให้ชื่อที่เป็นสามัญทางการว่า Wi-Fi CERTIFIED Miracast™ เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2012 นับจนถึงตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว (2016)
วัตถุประสงค์ของการทำ Miracast
การใช้งานแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ ต้องดูว่าวัตถุประสงค์ในการทำ Screen Morroring ของเพื่อนๆคืออะไร เพื่อเลือกอุปกรณ์ให้ถูกต้องและเหมาะสม ก็จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าครับ
1. เราสามารถใช้ Miracast ช่วยในเรื่องของการ Presentation ได้จากจอเล็กไปจอใหญ่โดยที่ไม่ต้องง้อสาย HDMI หรือ VGA
2. เราสามารถดูวีดีโอ/ฟังเพลง ดูซีรีส์จาก Youtube บนจนใหญ่ได้ โดยที่ไม่ต้องดูผ่านจอโทรศัพท์
3. เราสามารถแคสเกมกับเพื่อนๆได้ เล่นโชว์สดๆ ผ่านหน้าจอทีวีได้
4. เราสามารถใช้ Application จากช่องหรือค่ายทีวี ดู live TV ผ่านจอใหญ่ๆได้โดยที่ไม่ต้องดูแค่ในมือถือ
5. เราสามารถ Live ขึ้นจอใหญ่ได้โดยการใช้กล้องของโทรศัพท์ให้เป็นประโยชน์
*ถ้าต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเหมาะกับคนที่มี Rounter ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตบ้าน
**ไม่เหมาะกับการใช้ทั้งวี่ทั้งวัน เพราะต้องเปิดจอโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา
***ถ้าจะใช้ดู Youtube เฉยๆลองพิจารณา Youtube Connected TVs กับ App Youtube บน Smart TV หรือ Digital TV ที่การใช้งาน Youtube บน Smartphone จะมีหน้าที่เหมือนรีโมท ซึ่งสะดวกกว่า

MIRROR YOUR ANDROID SCREEN (https://www.google.com/intl/th_th/chromecast/tv/#?discover)
แตกต่างกับการทำ Screen Mirroring อย่างไร?
ผมว่าเหมือนกันแหละครับ ชื่อเทคโนโลยี Miracast ก็คือการทำ Screen Mirroring นั้นเองเป็นการโคลนหน้าจอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ท หรือโน๊ตบุ๊ค ไปออกยังหน้าจอทีวีหรือมอนิเตอร์อื่นๆ ก็คล้ายๆกับการที่เราเอาโน๊ตบุ๊คไปต่อออกจอโปรเจคเตอร์หรือจอทีวีนั่นแหละ แบบนั้นใช้สายไง แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ No Wire แต่ใช้ Wireless แทนหมดแล้ว
ความสามารถของ Miracast
สามารถรับ-ส่งสัญญาณภาพได้สูงสุดระดับในระดับ 1080p HD และเสียงได้ถึง 5.1 ชาแนล โดยที่ไม่ต้องใช้สาย แต่ใช้ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อและสตรีมภาพและเสียงไปแสดงบนมอนิเตอร์ที่เราต้องการได้
ทีวีรุ่นไหนใช้ Miracast ได้บ้าง?
ถ้าอุปกรณ์ที่สนับสนุนเทคโนโลยี Miracast ก็สามารถเชื่อมต่อได้โดยง่าย เช่นพวกทีวีดิจิทัลหรือ Smart TV ที่มีมีการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และรองรับการทำ Miracast เราก็สามารถนำหน้าจอขึ้นทีวีได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมแต่อย่างใด แต่ถ้าทีวีเราไม่ได้เป็น Smart TV แต่มีกล่องรับสัญญาณ Digital พวก Set top box ที่เป็น Android Box ก็สามารถใช้ Mirror Cast ได้เหมือนกันครับ หรือถ้าเป็นทีวีแบบเก่าก็สามารถเชื่อมต่อได้โดยใช้ Adapter ผ่าน HDMI พอร์ทด้านหลังทีวี ซึ่งเราจะเรียกอุปกรณ์นี้ว่า HDMI Dongle ก็ได้ครับ

ตัวออย่างอุปกรณ์ประเภท Miracast “Chromecast” ใช้ได้ทั้งแบบ Media Streaming และการทำ Mirror Screen (https://www.google.com/intl/th_th/chromecast/tv/#?discover)
เหมือนกับ Wi-Fi Direct หรือเปล่า?
คำว่า Wi-Fi Direct นี้หลายๆคนก็คงจะคุ้นหูบ้างครับสำหรับคนที่ใช้ Smart Phone ของ Android ซึ่งรูปแบบการทำงานของ Wi-Fi Direct นั้นช่วยให้อุปกรณ์ 2 อุปกรณ์หรือมากกว่า เชื่อมต่อกันเองได้แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi โดยไม่ต้องอาศัย Wi-Fi Rounter หรือ Wi-Fi Access Point แต่อย่างใด ประโยชน์ก็คือ ทำให้สามารถรับ-ส่งไฟล์ หรือ Sync กันได้ทันทีหลังจากที่เราทำให้อุปกรณ์นั้นๆทำความรู้จักกัน เทคโนโลยีแบบนี้ก็คล้ายๆกับการรับส่ง -ส่งไฟล์ผ่าน Bluetooth นั่นเองครับ แต่มีความเร็วและเสฐียรมากขึ้นนั่นเอง ถ้าเป็นทางฝั่ง Apple ก็คงต้องบอกว่ามันคือ AirDrop นั่นแหละ (รูปแบบเหมือนกัน แค่ชื่อเรียกคนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เรียกต่างกัน)
ดังนั้น มันไม่เหมือนกันซะทีเดียว คล้ายๆกันแค่ใช้ Wi-Fi เหมือนกันและคนละวัตถุประสงค์การใช้งานครับ

Stream super fast (https://www.google.com/intl/th_th/chromecast/tv/#?discover)
Miracast และ AirPlay แตกต่างกันอย่างไร?
จริงๆคล้ายคลึงกันหรือจะว่าไปก็เหมือนกันเลย ทั้ง “Miracast และ AirPlay” คือคู่แข่งกัน มีหลักการทำงานที่คล้ายๆกันครับ แต่อาจจะไม่ใช้ Screen Mirroring ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อด้วย อุปกรณ์ที่เป็น iDevices ทั้งหลายจะใช้วิธีเชื่อมต่อแบบ AirPlay ครับ ส่วน Tablet หรือ Smartphone ที่ใช้ OS เป็น Android จะใช้วิธีการเชื่อมแต่แบบ Miracast นั่นเอง
AppleTV = AirPlay
Android Box = Miracast หรือ AirPlay
แต่… iDevices สามารถใช้ AirPlay ในการทำ Screen Mirroring ได้บนกล่อง Android ได้
วิธีการทำ Miracast
- เช็คความพร้อมของอุปกรณ์ว่าพร้อมไหม ทีวี, กล่อง หรือ Smart Phone ของเรารองรับการทำ Miracast หรือเปล่า
- เชื่อมต่อสมาร์ททีวี และโทรศัพท์ในวงเครือข่ายเดียวกับ (Access Point) โดยทีวีอาจจะใช้เป็น LAN ก็ได้
- เปิดฟังก์ชั่น Miracast หรือ AirPlay ที่สมาร์ททีวี และไปที่ฟังก์ชั่นการทำ Miracast ของสมาร์ทโฟน*
- ถ้ามาร์ทโฟนของเราตรวจพบอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกันที่รองรับ Miracast จะมีชื่อขึ้นมาและจะแสดงปุ่มให้เรากด Miracast หรือ Mirror Screen
*ชื่อเรียกฟังก์ชั่นนี้ของสมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อแตกแตกต่างกัน เช่น Samsung ใช้ว่า SmartView, ASUS ใช้ว่า PLAYTO, iMobile ใช้ว่า WirelessDisplay, LG ใช้ว่า Miracast, LENOVO ใช้ว่า Wi-Fi Display, iPhone ใช้ว่า AirPlay
ผมมีอธิบายในวีดีโอและทดสอบการทำ Miracast บนทีวีเก่าผ่าน HDMI Dongle
ตรวจสอบรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับมาตราฐาน Miracast ได้ที่
http://www.wi-fi.org/product-finder-results?capabilities=2
Refference www.wi-fi.org/miracast
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
