โลกเปิดแล้วไปเที่ยวกันเถอะ!!! ใครอยากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เน้นทำเอกสาร วีซ่าอะไรให้วุ่นวาย แค่ฉีดวัคซีนครบโดสก็ไปได้แล้ว ขอแนะนำ จอร์เจีย (Georgia) เอาไว้ในอ้อมใจ เพราะจอร์เจียเป็นอัญมณีแห่งเทือกเขาคอเคซัส เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักเดินทางผู้รักสายลม แสงแดด และขุนเขา ต้องไม่พลาด จุดปักหมุดทุกแห่งมีเรื่องราวและร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ให้ได้ตามรอย เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสองทวีปไว้ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญเที่ยวง่าย งบไม่บานปลาย ปักหมุด 10 ที่เที่ยวจอร์เจียไว้ แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจียไว้ จากนั้นก็รอจัดกระเป๋าเดินทางอย่างเดียวเลย

แต่ก่อนที่จะเดินทางอย่าลืมไปเช็คมาตรการสนามบินก่อนเดินทาง ที่อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ ได้ที่นี่ แล้วไปจองตั๋วเครื่องบิน Traveloka กันได้เลย เพราะทราเวลโลก้าเป็นมากกว่าแอพฯ จองตั๋วเครื่องบิน ที่ตอนนี้เป็น Traveloka Travel & Lifestyle Super App จองได้ครบ และจบภายในที่เดียวแล้ว สามารถเช็คโปรโมชั่นจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศได้ คลิก
จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย กับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-georgia
1. ย่านเมืองเก่าทบิลิซี (Old Town Tbilisi)

“ทบิลิซี” เมืองหลวงของจอร์เจีย มีทั้งย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจ โดยจุดแลนด์มาร์กหรือที่เที่ยวดังๆ เช่น โรงละคร พิพิธภัณฑ์ ตลาดของเก่า และจัตุรัสใจกลางเมือง จะอยู่ในย่านเมืองเก่ามากกว่า ซึ่งเป็นย่านที่คึกคัก เดินทางสะดวก เที่ยวได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ แถมยังมีที่พักหลายระดับรา่คา ตั้งแต่โรงแรมหรูจนถึงโฺฮสเทลให้เลือกใช้บริการ
2. มหาวิหารทบิลิซีซิโอนี (Tbilisi Sioni Cathedral)

โบสถ์หลังใหญ่ของนิกายออร์โธด๊อกที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6-7 ที่เมืองทบิลิซี โดยชื่อของโบสถ์ได้นำมาจากชื่อของภูเขาไซออน (Mount Zion) ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม ตัวอาคารมีความเรียบง่าย ประดับตกแต่งด้วยรูปแกะสลักนูนต่ำ เป็นรูปไม้กางเขน ทูตสวรรค์และนักบุญ จุดเด่นคือหอระฆังสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก มหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่ฝังศพของผู้มีชื่อเสียงหลายคนของจอร์เจีย
3. โบสถ์เมเตคี (Metekhi Cathedral)

โบสถ์เมเตคี โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 800 ปี ริมแม่น้ำมิตควารี (Mtkvari River) ที่เคยเป็นทั้งคุก คลังแสง สถานที่แห่งคำสัญญา และศาสนสถานที่ถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่อยู่หลายครั้ง เมื่อขึ้นไปที่ตัวโบสถ์ออร์โธดอกซ์ที่สวยงามแห่งนี้ จะมองเห็นสถานที่สำคัญรอบๆ บริเวณนั้นได้อย่างชัดเจน ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายรูปเมืองทบิลิซีที่ห้ามพลาด
4. โครนิเคิลออฟจอร์เจีย (Chronicle of Georgia)

ที่เที่ยวจอร์เจียที่เหล่านักท่องเที่ยวยกเป็น “Hidden Gems” แห่งทบิลิซี ที่นี่คืออนุสรณ์บนเขาสูง ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของจอร์เจียไว้ในรูปแบบงานจิตรกรรมนูนต่ำสุดตระการตา ผ่านเส่าหินขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 35 เมตร จำนวน 16 ต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กห้ามพลาดแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองมุมสูงสุดประทับใจอีกด้วย
5. โรงละครโอเปราและบัลเลต์ทบิลิซี (Georgian National Opera and Ballet Theater)

ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการแสดงบนเวที มาถึงจอร์เจียแล้วไม่ควรพลาด เพราะที่เมืองทบิลิซีเป็นที่ตั้งของโรงละครโอเปร่าและบัลเล่ต์แห่งชาติ ภายในตกแต่งสวยงามไม่แพ้โรงละครโอเปร่าลาสกาลา (La Scala) ที่ มิลาน ประเทศอิตาลี โรงละครแห่งนี้ในอดีตเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจียตกอยู่ในจักรวรรดิรัสเซีย ปัจจุบันบุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมในราคาเริ่มต้นที่ 10 ลารี หรือประมาณ 100 บาท
6. ไรค์พาร์คคอนเสิร์ทฮอลล์ (Rike Park Concert Hall)

ที่สวนไรค์ (Rike Park) สวนสาธารณะใจกลางเมืองทบิลิซิ จุดชมวิวเมืองที่นอกจากจะได้รับการตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้และงานศิลปะอย่างสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมสะดุดตา มีรูปทรงคล้ายสองอุโมงค์ยักษ์ ซึ่งเป็นคอนเสิร์คฮอลล์และโรงละครที่สามารถจุได้กว่า 560 ที่นั่ง และยังเป็นศํูนย์จัดแสดงนิทรรศการที่สวยงาม น่าแวะไปถ่ายรูปมากๆ
7. ประติมากรรมอาลีและนีโน (Ali and Nino)

ประติมากรรมสุดโมเดิร์นแห่งเมืองบาทูมี (Batumi) เป็นรูปคู่รักที่ถูกแกะสลักจากเหล็ก มีความสูงถึง 8 เมตร ซึ่งได้รับแรงบัลดาลใจจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง Kurban เรื่องราวความรักที่แสนอาภัพของ “อาลี” หนุ่มมุสลิม และ “นีโน” สาวชาวจอร์เจีย ที่ต้องพลัดพรากจากกันเพราะการรุกรานของโซเวียต ความพิเศษอยู่ตรงที่รูปปั้นคู่นี้จะค่อยๆ เคลื่อนที่ จนมาบรรจบ จากนั้นก็จะค่อยๆ ถอยห่างกันออกไปในที่สุด
8. เสาคัตสคี (Katskhi)

เสาคัตสคี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เสาหลักแห่งชีวิต” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านคัตสคี เป็นเสาหินมีความสูง 130 ฟุต เป็นที่ตั้งของโบสถ์ลอยฟ้า ซึ่งเชื่อกันว่าพระสงฆ์หลายรูปร่วมกันสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 – 10 ปัจจุบันที่นี่เป็นสุดยอดความท้าทายของนักเดินทางผู้รักความท้าทายผจญภัย ในการปืนป่ายบันไดขึ้นไปชมอารามบนยอดเสา และชมทิวทัศน์ในมุมสูงสุดสยิว
9. ป้อมปราการชาติลี (Shatili Fortress)

“ชาติลี” ป้อมปราการโบราณที่อยู่ในเขตของหมู่บ้านชาติลี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประมาณ 20-25 หลังคาเรือน ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทางเหนือของเทือกเขาคอเคซัส ป้อมปราการแห่งนี้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและป้อมปราการปกป้องเขตแดน เป็นการสร้างโดยใช้หินวางซ้อนกัน จุดเด่นอยู่ตรงที่ทุกบ้านนั้นมีประตูเชื่อมต่อกัน เรียกได้ว่าเดินหากันได้ทั่วหมู่บ้านโดยไม่ต้องเปิดประตู ท้้งหมู่บ้านยังมีถนนเพียงเส้นเดียวอีกด้วย
10. หมู่บ้านอุชกูลลี (Ushguli Village)

จุดปักหมุดสุดท้ายอยู่ที่ “อุชกูลลี” ชุมชนโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยูู่กลางหุบเขาคอเคซัส ในเขตเมืองเมสเทีย (Mestia) ซึ่งเป็นจุดที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,100 เมตร ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในระดับสูงสุดของทวีปยุโรป ในช่วงฤดูหนาวอันยาวนานถึง 6 เดือน ที่นี่จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ที่นี่จึงเหมาะที่จะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ที่นี่มีครบครันทั้งโบสถ์ ร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรมที่พัก
ก่อนโควิด 19 จะอาละวาด จอร์เจีย เป็น 1 ใน 32 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถพำนักอยู่ได้นานถึง 365 วัน แต่เวลานี้ผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวจอร์เจีย ต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนครบโดส ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องแสดงหลักฐานการทดสอบ PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนหน้าเมื่อออกเดินทาง โดยผลการทดสอบจะต้องเป็นภาษาจอร์เจีย อังกฤษ หรือรัสเซีย
กดติดตามผมที่ Facebook เพราะมีคอนเทนต์อื่นๆอีกเพียบ itubb.net
Facebook facebook.com/itubb
และรับรีวิวอัพเดทจากบล็อกเกอร์ได้ทาง LINE Official Account
กดแอดเลย
