ถ่ายรูปฟรีๆเพลินๆในป่าจำลองบรรยากาศ Autumn จากหนังเรื่อง Frozen

ถ่ายรูปฟรีๆเพลินๆในป่าจำลองบรรยากาศ Autumn จากหนังเรื่อง Frozen

ผมไม่ได้ตั้งใจมา shopping ที่ King Power และก็ไม่ได้ตั้งใจมาดูปราสาท Frozen ของเอลซ่าด้วยครับ… ดันบังเอินหลงเข้ามาจอดรถทำธุระแถวนี้ 5 นาที แต่ดัน into the unknown หลุดเข้าไปถ่ายรูปในป่าลึกลับของดีสนีย์ที่คิงเพาเวอร์เข้า… อยู่เป็นชั่วโมง head over heels ถอนตัวไม่ขึ้นเลย 

ก็อย่างที่บอกครับว่าหลงเข้ามาจอดรถ เสร็จธุระ ก็ขอเดินเล่นในนี้สักหน่อย ดันเหลือบไปเห็น Disney Frozen Castle แว๊บๆ เลยรีบกลับไปหยิบกล้องในรถมาดีกว่า ผมก็เลยได้รูปสวยๆจากงาน Disney Frozen ของราชินีหิมะเอลซ่าาาาาาา มาฝากกันคร้าบ มุมไหนสวยมุมไหนน่าถ่ายรูปบ้าง Follow me ตามผมมาๆใกล้ๆครับ

งานนี้เค้าจัดด้านนอกรอบๆห้าง แต่พื้นที่โดยรวมก็ไม่ได้ใหญ่มากมาย ถ้าเอาจริงๆเดินเฉยๆโดยไม่ได้เล่นกิจกรรมหรือถ่ายรูปอะไร Walk Through ซัก 5 นาทีก็ทั่วแล้วนะครับ หลักๆพื้นที่จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ  Outdoor Zone ลานกิจกรรมกลางแจ้ง และ Indoor Zone ป่าติดแอร์ในปราสาทโฟรเซ่นคร้าบ

งานนี้ Free Ticket !! ไม่เสียตังก์ค่าเข้า แต่ต้องมาเอาสติกเกอร์ที่จุดลงทะเบียนด้านหน้าก่อน แต่ถ้าร่วมกิจกรรมต่างๆก็จ่ายเพิ่มเองตาม Station ครับ เอาจริงๆช่วงที่ผมไปก็ช่วงเย็นๆค่ำๆช่วง Prime Time นะ แต่รู้สึกว่าคนน้อยมากกกกๆ ฮ่าๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีงามสุดๆเพราะได้ถ่ายรูปโล่งๆคนน้อยๆ เล็งไม่กี่ทีก็เหมือนอยู่ในงานแค่คนเดียวแล้ว มันดีตรงนี้ 

Warp มาด้านในปราสาท Arendelle เลยแล้วกัน เพราะรู้สึกว่าด้านนอกสำหรับเด็กๆเค้า และผมไม่ได้อยากเปย์  จุดบังคับที่ต้องถ่ายเลยก็ต้องเป็นด้านหน้า Castle ครับ ตรงนี้กลางคืนสีดันสวยแหะ เค้าย้อมไฟแล้วจะได้สีฟ้าๆเขียวๆ Turquoise ปรับสีรูปดีๆสวยมากครับ

เดินเข้ามาด้านในปราสาททุกคนก็จะพบกับมุมถ่ายรูปเพียบเลยครับ behind the wall ผ่าน gate เข้าไปในป่าที่ จะมี Rock Landmark 4 ต้นขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนของ Spirit ทั้ง 4 โดดเด่นที่สุด 

สวนป่า Forest ตกแต่งด้วยใบเมเบิ้ลสีส้มๆแดงๆ เลียนแบบฤดู Autumn ในหนังเลยครับ มุมนี้จะถ่ายรูปยากหน่อยเพราะไฟตกลงมาตรงๆ Over head หน้าจะเกิด Shadow ลองหามุมที่แสงลงเฉียงๆ เข้าหน้า แล้วดึงแสงขึ้นนิดหน่อยก็ได้แล้ว

จากจุดตรงนี้ก็จะเป็น walk way ให้เดินบังคับไปตามทางที่ผมก็ยังแอบงงๆกับการ decorate และเกมเด็กๆให้เปิดแผ่นป้ายหมุนหา Elsa พลิกหาตัว salamander ซึ่งก็… แอบมองบนนิดนึง น่าจะเหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบมากกว่าคนอายุ 30+ แบบผม (ฮ่าๆๆๆ ) 

แต่ที่ผมค่อนข้างจะตื่นตาตื่นใจเล็กๆก็คือห้อง Projection แบบ Panorama 360 ที่ ฉายเรื่องราวของ Elsa ประกอบ Lighting Effect 3-4 นาที ที่ทำให้เราได้เหมือนสัมผัสพลังน้ำแข็งของเอลซ่า ถ้ามีพลังลมเย็น -0 องศา เป่าโฉบไปโฉบมาด้วย น่าจะ exciting มากกว่านี้ฮ่าๆ

เดินถัดมาก็จะเป็นห้องมึดๆ ที่จะโชว์พลัง Aurora ของ Spirits of nature ซึ่งห้องนี้ก่อนเริ่มจะเป็นห้องมึดๆ จำกัดจำนวนคนเข้าและต้องเดินต่อหางกันเข้าไป warning ค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นห้องเล็กๆที่มีหลอดไฟกับกระจกรอบด้านรวมถึงพื้นด้วย… ห้องนี้ถ่ายรูป difficult พอสมควรเพราะแสงที่ไม่นิ่งตลอด show time 4 นาที 

Exit จากห้องนี้ก็เป็นอันจบพิธีถ่ายรูป เพราะเดินออกมาแล้วก็จะเป็นโซนขายของที่เป็นเหมือน Showroom ของ Dieney ที่มีเอเวอรี่ติงฟรุ้งฟริ้งจากหนังเรื่อง Frozen รวมถึงของกุ๊กกิ๊กนานาจิปาถะจาก Disney คร้าบ อ๋อ… ทางเป็นแบบ One way เดินออกจากห้องนี้แล้วจะเดินกลับเข้าไปด้านในไม่ได้แล้วนะ ต้องเดินวนเข้าไปทางหน้า Castle เหมือนเดิม 

อ๋ออ…มาถ่ายรูปเฉยๆ ใครเอารถมาต้องเสียค่าจอดรถชั่วโมงละ 20 บาท ถ้าช้อปปิ้งหรือกินดื่มในคิงเพาเวอร์ครบ 500 บาท แต่ความลับของการจอดรถที่คิงเพาเวอร์ที่รางน้ำคือ ซื้อกาแฟสตาร์บัค 1 แก้วในนี้ ก็เอาใบเสร็บไปสแตมป์บัตรจอดรถได้ฟรี 2 ชั่วโมงเหมือนกัน (แต่ จุ๊ๆ อย่าบอกใครนะ)

หมดแล้วครับ…ใครอยากจะมาถ่ายรูปสวยๆกับปราสาทโฟรเซ่นและป่าลึกลับ into the unknown ที่คิงเพาเวอร์ในช่วง The Weekend หยุดยาวช่วง Festive Season หรือช่วงปีใหม่นี้ก็มาได้จนถึงวันที่ 12 มกราคม ปีหน้าเลยครับ… 

แถม… คิงเพาเวอร์รางน้ำ

หูยยย… ผมไม่ได้มาที่นี่นานมากๆ ตั้งแต่ก่อน renovate จนเค้าทำเสร็จแล้วก็ไม่เคยได้มา เพราะไม่รู้จะมาซื้ออะไรที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ ไม่รู้ว่าที่นี่มันมีอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าไม่มีตั๋วเครื่องบินก็ซื้อของได้ จนได้หลงเข้ามาครั้งนี้ทำให้รู้เพิ่มอย่างนึงว่า ทัวร์จีนเยอะกว่าเดิมมากๆ ใครจะมาช้อปปิ้งที่นี่ต้องมาเบียดกับคนจีนเหมือนเดิมนะ บอกไว้ก่อน